เคล็ดลับเด็ดเตรียมรับมือกับสภาพอากาศร้อนและชื้น

เคล็ดลับเด็ดเตรียมรับมือกับสภาพอากาศร้อนและชื้น

เคล็ดลับเด็ดเตรียมรับมือกับสภาพอากาศร้อนและชื้น

เราได้ก้าวเข้ามาสู่ช่วงกลางปีกันแล้วซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นหนึ่งในช่วงที่ร้อนที่สุดของปี และ เริ่มมีฝนบ้างเป็นบางช่วง แต่ไม่เพียงแต่คุณจะรู้สึกถึงความร้อน ความอบอ้าว และ ความชื้นที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น บ้านหรือที่ทำงานของคุณก็จะประสบปัญหานี้เช่นกัน ในบทความนี้ เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติของความร้อนความชื้น และ ปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้ความร้อน และ ความชื้นขังอยู่ในบ้านพร้อมวิธีแก้ไขต่างๆ ที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เคล็ดลับเด็ดเตรียมรับมือกับสภาพอากาศร้อนและชื้น

ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพของความร้อน ความร้อนถูกถ่ายโอนเข้าและออกจากวัตถุ เช่น คุณและบ้านของคุณโดยผ่านกระบวนการ 3 แบบ

  1. การนำความร้อน
  2. การแผ่รังสี
  3. การพาความร้อน

การนำความร้อน: ความร้อนที่เดินทางผ่านวัสดุที่เป็นของแข็งในวันที่อากาศร้อน ความร้อนจะถูกส่งเข้าไปในบ้านของคุณผ่านทางหลังคา ผนัง และ หน้าต่าง

การแผ่รังสี: ความร้อนที่เดินทางในรูปของแสงที่มองเห็นและที่มองไม่เห็น แสงแดดเป็นแหล่งความร้อนที่ชัดเจนมองเห็นได้แต่นอกจากนั้นแล้ว รังสีอินฟราเรดที่มีความยาวคลื่นต่ำและมองไม่เห็นก็สามารถนำพาความร้อนเข้าสู่บ้านได้โดยตรงจากวัตถุที่อุณหภูมิสูงไปยังวัตถุที่เย็นกว่า

การพาความร้อน: การพาความร้อน: เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้ความร้อนจากผนังและเพดานไปถึงคุณ อากาศร้อนจะลอยขึ้นตามธรรมชาติ โดยพาความร้อนออกไปจากผนังและไหลเวียนไปทั่วบ้าน เมื่ออากาศร้อนไหลเวียนผ่านผิวหนังของคุณ (และคุณหายใจเข้า) ก็ทำให้คุณอบอุ่นขึ้น

เคล็ดลับเด็ดเตรียมรับมือกับสภาพอากาศร้อนและชื้น

1. เปิดหน้าต่างของคุณในเวลากลางคืน

อุณหภูมิจะลดลงในตอนกลางคืน เราแนะนำว่าเมื่อตกเย็นให้คุณเปิดหน้าต่างเพื่อรับลม และนอกจากนี้อากาศธรรมชาติจากภายนอกจะยังช่วยให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้นอีกด้วย เพราะอากาศเย็นไหลเวียนตลอดทั้งคืนจะช่วยให้บ้านเย็นสบายในตอนเช้าอีกด้วย ในวิทยาศาสตร์การก่อสร้าง สิ่งนี้เรียกว่าการระบายอากาศแบบล้างกลางคืน อย่าลืมปิดหน้าต่างและมู่ลี่ก่อนนอนนะคะ

เคล็ดลับเด็ดเตรียมรับมือกับสภาพอากาศร้อนและชื้น

2. ปิดหน้าต่างของคุณ

แสงอาทิตย์สามารถส่งความร้อนผ่านหน้าต่างของคุณโดยตรง ปิดกั้นความร้อนด้วยม่านบังตาหรือมู่ลี่ในช่วงเวลาที่มีแสงแดดมากที่สุดเพื่อให้บ้านของคุณเย็นสบายโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ นี่เป็นวิธีการทำความเย็นแบบพาสซีฟหรือ "ธรรมชาติ" ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งที่ถูกที่สุดและง่ายที่สุดในการทำให้บ้านของคุณเย็นสบาย

เคล็ดลับเด็ดเตรียมรับมือกับสภาพอากาศร้อนและชื้น

3. ทำอาหารและซักผ้าตอนกลางคืน

เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ปล่อยความร้อนออกมาเป็นจำนวนมาก เราแนะนำให้รอช่วงเย็นเพื่อเปิดเตาอบ เครื่องล้างจาน และเครื่องซักผ้าเมื่ออุณหภูมิเย็นลง นอกจากนี้ ให้ลองแขวนผ้าไว้ข้างนอกเพื่อทำให้แห้ง คุณจะประหยัดค่าใช้จ่ายในการเปิดเครื่องอบผ้าพร้อมทั้งลดความร้อนและความชื้นในบ้าน

เคล็ดลับเด็ดเตรียมรับมือกับสภาพอากาศร้อนและชื้น

4. ปรุงอาหารนอกตัวบ้าน

หากเป็นไปได้เราแนะนำให้ออกไปทำอาหารข้างนอก ให้เปิดเตาย่างแทนการเปิดเตาอบเพื่อหลีกเลี่ยงอุณหภูมิสะสมในบ้าน

เคล็ดลับเด็ดเตรียมรับมือกับสภาพอากาศร้อนและชื้น

5. ติดตั้งม่านบังแดดด้านนอก

การติดตั้งกันสาด ไม้เลื้อยที่ระเบียง หรือต้นไม้ให้ร่มเงาข้างหน้าต่างด้านทิศตะวันตกจะช่วยปกป้องบ้านของคุณจากแสงแดดที่ร้อนจัดในยามบ่าย

เคล็ดลับเด็ดเตรียมรับมือกับสภาพอากาศร้อนและชื้น

6. ติดตั้งพัดลมในจุดที่เหมาะสม

พัดลมช่วยให้อากาศเคลื่อนที่ไปรอบๆ แทนที่จะทำให้อากาศเย็นลง เป่าลมใส่ผู้คนโดยตรงเพื่อให้ได้ความเย็น หรือตั้งพัดลมให้ดึงอากาศเย็นจากภายนอก (หรือส่วนที่เย็นกว่าของบ้าน) ไปยังบริเวณที่ร้อน

เคล็ดลับเด็ดเตรียมรับมือกับสภาพอากาศร้อนและชื้น

7. ใช้พัดลมดูดอากาศ

พัดลมดูดอากาศในห้องครัวและห้องน้ำของคุณจะจับเอาอากาศร้อนและระบายมันออก ก่อนที่จะปะปนกับอากาศในบ้านและก่อให้เกิดความร้อนสูงเกินไป ใช้พัดลมดูดอากาศระหว่างอาบน้ำหรือทุกครั้งที่ปรุงอาหารเพื่อให้บ้านคงอุณหภูมิที่เหมาะสม

เคล็ดลับเด็ดเตรียมรับมือกับสภาพอากาศร้อนและชื้น

8. ตั้งพัดลมเพดานให้หมุนทวนเข็มนาฬิกา

เมื่ออากาศร้อนคุณควรเซ็ตใบพัดลมให้หมุนทวนเข็มนาฬิกา (เมื่อคุณมองขึ้นไป) เพื่อดันลมลงตรงๆ ทำให้พัดลมหมุนเวียนอากาศเร็วขึ้น

เคล็ดลับเด็ดเตรียมรับมือกับสภาพอากาศร้อนและชื้น

เรามาดูกันบ้างว่าความชื่นเช่นเดียวกันกับความร้อนสะสมอยู่ในที่พักของคุณ หรือ บ้านที่ซ่อมแซมของเจ้าของบ้านได้อย่างไร? น้ำ และ ความชื้นในบ้านของคุณสามารถผ่านเข้ามาได้หลายวิธี เช่น การรั่วหรือซึมผ่านชั้นใต้ดิน การอาบน้ำหรือแม้แต่การทำอาหารก็สามารถเพิ่มความชื้นในอากาศได้

ปริมาณความชื้นที่อากาศในบ้านของคุณสามารถกักเก็บได้นั้นขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของอากาศ

  • เมื่ออุณหภูมิลดลง อากาศจะกักเก็บความชื้นได้น้อยลง
  • เมื่ออากาศหนาวเย็น ความชื้นจะเกาะตัวบนพื้นผิวที่เย็น (เช่น หยดน้ำที่ก่อตัวที่ด้านในของหน้าต่าง)

ผลกระทบที่จะตามมาเมื่อความชื้นสะสมมากๆ มีอะไรบ้าง?

1. เกิดปัญหาเชื้อรา

เห็ดราขนาดเล็กเหล่านี้อยู่รอบตัวเรา แต่เมื่อเกิดการสะสมของความชื้นมากๆ ราเหล่านี้จะเกาะตัวบนพื้นผนังและเติบโต ทำให้เกิดปัญหาโครงสร้างผุพัง รวมไปถึงปัญหาสุขภาพ

2. งานสีเสียหายและผนังลอก

เมื่อเกิดการสะสมของความชื้น ผนังจะอมน้ำและทำให้เกิดความเสียหายต่อผนังบ้าน

3. เฟอร์นิเจอร์ พื้น และของตกแต่งเน่าเปื่อย

ความชื้นมากเกินไปในบ้านเนื่องจากความชื้นสูงอาจทำให้ไม้เสียหายได้ ไม่ว่าจะโดยการสร้างคราบและการเจริญเติบโตของเชื้อรา หรือในที่สุดอาจทำให้เนื้อที่เน่าเปื่อยรุนแรง

4. ผนังและอิฐเสียหาย

ผนังบ้านโดยทั่วไปจะมีแผงกั้นอากาศ/ไอน้ำ เพื่อป้องกันอากาศชื้นไม่ให้ทะลุพื้นผิวเข้ามาในตัวบ้าน แต่วัสดุเสริมเหล่านี้ไอาจไม่คงทนเสมอไปโดยเฉพาะเมื่ออากาศร้อนขึ้น ความชื้นอาจควบแน่นในวัสดุฐานราก ส่งผลให้เกิดปัญหากับโครงสร้าง

วิธีรับมือกับปัญหาความชื้นสะสม:

เคล็ดลับเด็ดเตรียมรับมือกับสภาพอากาศร้อนและชื้น

1. เปิดเครื่องปรับอากาศ

เครื่องปรับอากาศของคุณจะลดความชื้นในบ้านตามธรรมชาติโดยการดูดอากาศร้อนออกและนำอากาศเย็นมาใช้ทำให้ปริมาณความชื้นลดลง

เคล็ดลับเด็ดเตรียมรับมือกับสภาพอากาศร้อนและชื้น

2. เปิดพัดลมระบายอากาศ

เมื่อคุณทำอาหาร อาบน้ำ หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ทำให้บ้านร้อน อย่าลืมใช้พัดลมดูดอากาศหรือพัดลมระบายอากาศเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของอากาศและลดความชื้น ถ้าคุณไม่มีพัดลมดูดอากาศหรือพัดลมระบายอากาศ เราแนะนำให้พิจารณาติดตั้งในส่วนที่เสี่ยงต่อความชื้นในบ้านของคุณ

เคล็ดลับเด็ดเตรียมรับมือกับสภาพอากาศร้อนและชื้น

3. เปิดเครื่องดูดความชื้น

อุปกรณ์นี้จะช่วยให้บ้านของคุณแห้งและเย็นลงอีกด้วย

เคล็ดลับเด็ดเตรียมรับมือกับสภาพอากาศร้อนและชื้น

4. ซ่อมรอยรั่วภายในบ้าน

ท่อและก๊อกน้ำที่รั่วจะเพิ่มความชื้นให้กับสภาพแวดล้อม ส่งผลให้ความชื้นโดยรวมเพิ่มขึ้น เราแนะนำให้ซ่อมแซมรอยรั่วหรือหยดน้ำในบ้านของคุณโดยเร็ว

เคล็ดลับเด็ดเตรียมรับมือกับสภาพอากาศร้อนและชื้น

5. เปิดหน้าต่าง

แม้ว่าภายนอกจะมีความชื้น แต่การเปิดหน้าต่างสามารถช่วยลดความชื้นในบ้านของคุณได้ เนื่องจากอากาศที่ไหลเวียนจะทำให้อากาศที่มีความชื้นไม่สะสมในบ้านของคุณ

เคล็ดลับเด็ดเตรียมรับมือกับสภาพอากาศร้อนและชื้น

เมื่อเราได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพของความร้อน วิธีที่ความร้อน และ ความชื้นสะสมในที่พัก และ วิธีหลายควบคุมแล้ว เราขอแนะนำวิธีสุดท้ายนั่นคือการปรับปรุงโครงสร้างให้เป็นใจต่อสภาพอากาศโดยการเลือกติดตั้งแผ่นยิปซัมกันร้อน และ กันชื้นเพื่อบ้าน

เราแนะนำให้เลือกใช้วัสดุ Knauf เพราะเราเข้าใจถึงความต้องการของพี่ช่าง เราจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความตอบสนองต่อสภาพอากาศ แข็งแรง ทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แล้วยังปลอดภัยต่อสุขภาพอีกด้วย

แผ่นยิปซัม Knauf มีให้เลือก 4 รุ่นแตกต่างกัน:

  • Heatshield: แผ่นยิปซัมบอร์ดกันร้อน
  • StandardShield: แผ่นยิปซัมบอร์ดชนิดมาตรฐาน
  • MoistShield: แผ่นยิปซัมบอร์ดชนิดทนชื้น
  • FireShield: ผ่นยิปซัมบอร์ดทนต่อเปลวเพลิง

  • เรียบ เนียน และสวยงามเหมาะสำหรับการออกแบบในหลากหลายพื้นที่
  • สามารถออกแบบเพื่อให้สามารถป้องกันเสียงได้ถึง 45 เดซิเบลเมื่อติดตั้งควบคู่กับวัสดุที่เป็นฉนวนและโครงคร่าวคนอฟ
  • ไม่ดูดซับความร้อน ไม่ลามไฟ
  • สามารถติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว
  • ไม่มีสารประกอบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

นอกจากแผ่นยิปซัมแล้วคนอฟยังมีผลิตภัณฑ์ แผ่นยิปซัมทีบาร์ ช่องเซอร์วิส แผ่นอะคูสติก และอีกมากมายให้เลือกใช้

หลังจากที่เราได้ทำความรู้สึกกับอาการเสื่อมสภาพของโครงสร้างแล้ว เราก็สามารถเดินหน้าต่อด้วยการปรับปรุงใหม่ด้วยข้อมูลที่มีมากขึ้น ตราบใดที่คุณได้ทำการบ้านอย่างรอบและปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญแล้ว คำของคุณก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม เราหวังว่าเราจะสามารถให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหานี้ และมอบความมั่นใจให้กับคุณในการรับมือกับปัญหาในอนาคตได้อย่างไร้ห่วง

ฝากติดตามเราได้หลากหลายช่องทางเว็บไซต์ https://knauf.co.th/ และ ช่องทางอื่นๆ ตาม QR โค้ด

10 อันดับวัสดุกันไฟชั้นดี

10 อันดับวัสดุกันไฟชั้นดี

ยิปซัมน่ารู้อื่นๆ