12 วิธีปรับแต่งบ้านและอาคารเพื่อลดอันตรายจากปัญหาไฟไหม้

เมื่อพูดถึงปัญหาไฟไหม้ และวิธีป้องกันเราจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลต่างๆ เพื่อวิเคราะห์ปัญหาอย่างถูกวิธี

หากคุณกำลังสร้างที่พักอาศัย หรือ อาคารสิ่งแรกๆ ที่คุณคำนึงถึงแน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องของความแข็งแรง และวิธีปกป้องโครงสร้างของคุณจากภัยอันตรายจากสภาพแวดล้อม แต่ที่สำคัญที่สุดควรเป็นการปรับแต่งบ้านให้ปลอดภัยจากเหตุไฟไหม้ หนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตที่เกิดขึ้นบ่อยคือการเสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ ถ้าคุณกำลังศึกษาข้อมูลก่อนเริ่มโปรเจ็กต์ก่อสร้าง หรือ ต้องการปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในบ้าน เรามี 12 วิธีมาแนะนำ

ก่อนที่เราจะเข้าถึงวิธีการแก้ไขปัญหาคุณควรทำความคุ้นเคยกับปัญหาหลักๆ ที่ก่อให้เกิดไฟไหม้ได้ ส่วนมากแล้วเหตุไฟไหม้เกิดขึ้นภายในบ้าน ความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ สามารถทำให้คุณตกอยู่ในอันตรายได้

• คุณควรระบุเสียงรบกวนที่คุณอยากควบคุม เสียงที่เกิดจากสาเหตุใกล้ตัวภายในบ้าน
• การบล็อกเสียงไม่พึงประสงค์จากข้างนอก

1. ระบบไฟฟ้า:

   การติดตั้งระบบไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐานเป็นอะไรที่อันตรายเอามากๆ หากสายไฟเหล่านี้ตั้งอยู่ใกล้วัสดุที่ติดไฟง่ายอาจทำให้เกิดประกายไฟ และในที่สุดเพลิงไหม้จะครอบคลุมและเผาบ้านพักของคุณ

   

2. ของเหลวไวไฟ:

   ถ้าคุณมีของเหลวไวไฟอยู่ในบ้านหรือที่เก็บของ เช่น น้ำมันเบนซิน น้ำมันก๊าซ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควรจัดเก็บในที่ที่ไกลจากอะไรที่สามารถก่อให้เกิดความร้อนได้ แล้วควรเช็คฉลากก่อนเก็บเพื่อตรวจสอบวิธีจัดเก็บที่อาจมีข้อควรระวังมากกว่ากว่าปกติ

   

3. สารเคมีและก็าซ:

   การรั่วของก็าซต่างๆ และก็าซจากธรรมชาติเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดไฟไหม้อยู่บ่อยๆ ประกายไฟหากเกิดขึ้นในบริเวณที่รายล้อมด้วยวัสดุติดไฟง่ายจะกระตุ้นการเผาไหม้ นั่นเป็นสาเหตุที่อะไรก็แล้วแต่ที่ให้คุณจำเป็นต้องจุดไฟควรทำนอกบ้านเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

   

4. ของตกแต่งบ้าน:

   เหตุการณ์ไฟไม้หลายๆ กรณีเกิดขึ้นเพราะของตกแต่งบ้าน สิ่งของเหล่านี้เป็นวัสดุไวไฟที่ถูกนำไปวางไว้ใกล้ๆ ที่เสี่ยงการเกิดประกายไฟ หรือ อันที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดเลยคือเทียน เทียนเป็นที่นิยมมาตั้งแต่ไหนแต่ไรด้วยความสวยงามของมัน แต่เพราะตัวเทียนเป็นไฟที่เผาอยู่อย่างสม่ำเสมออัตราการเกิดอันตรายจะสูงกว่าอย่างอื่น เพียงแค่เชิงเทียนล้มหรือโดนแรงกระแทกเท่านั้นหมายถึงความอันตรายทันที เพราะฉะนั้นคุณควรซื้อที่ตั้งเทียนแบบที่ดีไซน์มาเพื่อความปลอดภัย และพยายามดับเทียนทุกครั้งที่คุณไม่อยู่บ้าน

   

5. แบตเตอรี่ชนิดต่างๆ:

   แบตเตอรี่อาจก่อให้เกิดไฟไหม้หากคุณทิ้งมันไว้ในกระเป๋าพร้อมกุญแจ หรือ ชิ้นเหล็กต่างๆ เพราะอาจก่อให้เกิดไฟช็อตได้ หากคุณทิ้งแบตเตอรี่ใว้ภายในลิ้นชัก ลิเธียมภายในแบตเตอรี่เป็นเหล็กไวไฟอาจก่อให้เกิดประกายไฟได้ง่าย ถ้าเกิดการสัมผัสกับน้ำ หรือ ความชื้น แบตเตอรี่อาจระเบิดถ้าเกิดการเสียดสีเยอะ

   

6. ไฟป่า:

   ปัญหาไฟไหม้ในบางกรณีอาจเป็นอะไรที่นอกเหนือการควบคุมของคุณ แต่นั่นไม่ได้แปลว่าคุณไม่สามารถป้องกันบ้านของคุณก่อนที่เหตุจะเกิด คุณคงห้ามไฟป่าไม่ได้แต่เรามีวิธีรองรับภัยจากภายนอก เช่น

   • การติดตั้งและปรับเปลี่ยนแผ่นปิดกำแพงข้างนอก เลือกใช้แผ่นปิดกันไฟที่ทนร้อนเพื่อป้องกันการละลาย
   • พยายามอุดช่องต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับภายนอกเพื่อป้องกันสะเก็ดไฟที่อาจลอดเข้ามาไหม้สิ่งของในบ้านได้

   

เมื่อเราได้เข้าถึงสาเหตุต่างๆ ที่สามารถก่อให้เกิดไฟไหม้แล้ว เราหวังว่าระดับความอันตรายของปัญหานี้สำคัญมากแค่ไหน เรามาเริ่มแก้ปัญหาด้วยวิธีเหล่านี้กันค่ะ

1. ใช้สารเคมีที่ไม่มีคุณสมบัติไวไฟ: ใช้สเปรย์ที่มีส่วนผสมกันไฟในบริเวณบ้านที่เสี่ยงอันตรายที่สุด ปฏิกิริยาของสารเคมีจากเสปรย์จะชะลอการลามไฟ และสร้างด่านกั้นระหว่างคุณและเพลิงไฟ
2. สร้างพฤติกรรมรอบคอบเรื่องปลั้กไฟ: ความรอบคอบสำคัญที่สุด พยายามจัดเก็บวัตถุที่อาจก่อให้เกิดอันตรายไว้ในที่ที่ไกลจากโอกาสอุบัติเหตุ เพียงแค่ปลั้กไฟของคุณทำงานมากเกินไปก็ทำอันตรายได้ นั่นเป็นสาเหตุที่คุณควรหมั่นตรวจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บ่อยๆ
3. ใช้แผ่นยิปซัมกันไฟ: การเลือกวัสดุกันไฟจะช่วยคุณได้เป็นอย่างมาก เพื่อความสวยงามควบคู่กับคุณสมบัติที่ได้มาตรฐานเราแนะนำ Knauf FireShield แผ่นทนไฟ ความหนา 13 มม. หรือ 16 มม. นอกจากน้ำหนักเบา ยังติดตั้งได้แบบไม่ยาก เพียงติดต่อคู่กันระบบโครงคร่าวฝ้าเพดานและผนังฉาบเรียบคนอฟ สามารถกันไฟได้อย่างดี เป็นหนึ่งตัวเลือกที่จะช่วยให้บ้านของคุณได้รับผลกระทบน้อยลง

   

   

4. ถังดับเพลิง: การมีถังดับเพลิงเป็นจุดเปลี่ยนระหว่างอุบัติเหตุเล็กๆ กับเหตุการณ์ที่อาจเป็นอันตรายร้ายแรงต่อคุณได้ เพียงแค่ฉีดดับเพลิงปัญหาก็หมดไป ถังดับเพลิงมีเรตติ้งที่ต่างกัน เช่น
   Class A – ถังเหมาะดับเพลิงที่เกิดจาก ไม้ กระดาษ ผ้า ยาง พลาสติก ฯลฯ
   Class B – ถังเหมาะดับเพลิงที่เกิดจากของเหลวไวไฟ เช่น น้ำมัน สี แลคเกอร์ ฯลฯ
   Class C – ถังเหมาะดับเพลิงที่เกิดจากก็าซ มีเทน โพรเพน ไฮโดรเจน อะเซทิลีน ฯลฯ
   Class D – ถังเหมาะดับเพลิงที่เกิดจากเหล็กไวไฟเช่นแมกนีเซียม อลูมิเนียม ฯลฯ
   Class E – ถังเหมาะดับเพลิงที่เกิดจากไฟฟ้าช็อต
5. ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับควัน: คุณควรติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับควันเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ทั้งคุณ และบ้าน อุปกรณ์จะส่งเสียงดังเตือนคุณเมื่อมีไฟลุกภายในบ้าน หากคุณติดตั้งระบบที่ดีขึ้นตัวอุปกรณ์สามารถแจ้งคุณทางโทรศัพท์ได้อีกด้วย
6. ติดตั้งประตูหนีไฟ: ไฟในบ้านอาจลามได้ค่อนข้างไว เร็วมากถึง 10 นาทีตามกรณีที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว แต่โอกาสการเกิดอันตรายจากการสะสมของควันไฟ และความร้อนจะลดลงเมื่อคุณติดตั้งประตูกันไฟ นอกจากประตูกันควันไฟได้แล้วยังสามารถป้องกันทางหนีไฟให้คุณมีโอกาสรอดจากอุบัติเหตุมากขึ้นหลายเท่า
7. ลดความไวไฟของหลังคาบ้าน: การออกแบบหลังคาบ้านสำคัญกว่าที่คุณคิด หลังคาที่มีรายละเอียดเยอะ สันหลังคาและแอ่งที่เกิดจากดีไซน์โค้งของกระเบื้องอาจก่อให้เกิดไฟไหม้ได้ เราแนะนำให้คุณลองเปลี่ยนกระเบื้อง และโครงสร้างเพดานไปเป็นแบบที่กันเพลิงไหม้ได้ แล้วก็หมั่นทำความสะอาดหลังคาบ้าน
8. ทำความสะอาดรางน้ำฝน: พยายามทำความสะอาดรางน้ำฝน โดยเฉพาะชนิดที่เป็นท่อเพื่อป้องกันการสะสมของพืชและใบไม้แห้ง เพราะเศษพวกนี้อาจเป็นตัวช่วยก่อให้เกิดภัยอันตรายจากไฟได้
   • ติดตั้งเหล็กฉากกันน้ำย้อนที่สามารถกันการกัดกร่อน และ กันการติดไฟเพื่อกันอันตรายจากเศษพืชที่อาจติดไฟเพราะความร้อนบนหลังคา ฯลฯ
   • ติดตั้งที่ครอบรางน้ำแบบป้องกันการเกิดประกายไฟเพื่องดการสะสมของเศษซากพืชต่างๆ ในรางน้ำ
9. ใช้สีป้องกันไฟ: สีป้องกันไฟคือสีที่คุณสามารถทาลงบนบ้านของคุณเป็นชั้นเพิ่มเติม สีชนิดนี้มีปฏิกิริยาพิเศษเมื่อเกิดความร้อน สีจะพองตัวขึ้นหนากว่าชั้นสีที่ทาหลายเท่าแล้วสร้างถ่านคาร์บอนด้วยริมาณฟองอากาศที่เพิ่มขึ้นมาจากการพองตัว ปฎิกิริยานี้จะช่วยป้องกันพื้นผิวจากเพลิงไหม้
10. สปริงเกอร์ดับเพลิง: คุณควรติดตั้งสปริงเกอร์ดับเพลิงในบริเวณที่มีโอกาสเกิดอันตรายมากที่สุด โดยเฉพาะบริเวณทางออก คุณสามารถติดตั้งสปริงเกอร์ดับเพลิงไว้บนเพดานบ้านรวมไปถึงประตูเพื่อป้องกันการลามของไฟที่เกิดจากประกายไฟได้อีกด้วย
11. คอนกรีตมวลเบา: วัสดุนี้มีส่วนผสมของคอนกรีต และอะลูมิเนียมซึ่งช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างมาก (น้ำหนักเบากว่าคอนกรีตปกติครึ่งนึง) และคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อนที่ดี คอนกรีตมวลเบาสามารถปกป้องคุณจากความร้อนได้มากถึง 1 ชั่วโมง นี่เป็นเป็นสาเหตุที่คอนกรีตชนิดนี้เป็นหนึ่งในวิธีรับมือที่ได้ผลที่สุดบวกกับความง่ายในการติดตั้ง
12. เปลี่ยนชนิดกระจก: กระจกที่กันไฟได้ดีต้องเป็นหน้าต่างบานคู่ เพราะหน้าต่างบานคู่สามารถทนความร้อนได้นานกว่า ถ้าบ้านคุณมีประตูเลื่อนกระจกค่อนข้างเยอะเราแนะนำให้คุณเปลี่ยนชนิดกระจกให้เป็นกระจกนิรภัยทั้งหมด

เมื่อคุณได้ปรับเปลี่ยนที่พักของคุณให้ปลอดภัยขึ้นแล้วคุณจะรู้สึกดี เพราะบ้านได้รับการปกป้องอย่างถูกวิธี รวมไปถึงตัวของคุณด้วย ท้ายที่สุดแล้ววิธีดูแลบ้านที่ดีที่สุดคือการวางแผนอย่างละเอียดก่อนเริ่มเข้าอยู่ ปรับเปลี่ยนวัสดุให้เป็นอะไรที่คุณไว้ใจได้แล้วบ้านจะอยู่กับคุณไปนานๆ ถ้าคุณสนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลและตกแต่งบ้าน คนอฟได้สร้างบล็อกที่เราจะทำการอัพเดทบ่อยๆ เรื่องข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาในบ้าน และการตกแต่งภายใน เราหวังว่าข้อมูลของเราได้เป็นประโยชน์กับคุณ

บล็อกยิปซัมน่ารู้โดยคนอฟ: https://knauf.co.th/prddetail.php?prdId=41&lang=th

เว็บไซต์คนอฟ: https://knauf.co.th/index.php?lang=th

ยิปซัม คนอฟ คุณภาพดี เทคโนโลยีเยอรมัน