วิธีสร้างบ้านให้ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน และความเสียหายที่อาจตามมาจากแผ่นดินไหว

วิธีสร้างบ้านให้ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน และความเสียหายที่อาจตามมาจากแผ่นดินไหว

แผ่นดินไหวถือเป็นภัยธรรมชาติชนิดหนึ่งที่อันตรายมากที่สุด หากระดับความสั่นสะเทือนรุนแรงมาก นั่นหมายถึงภัยอันตรายขีดสุดไม่ว่าที่อยู่อาศัยของคุณจะแข็งแรงแค่ไหนก็ตาม แต่นั่นไม่ได้แปลว่าเราไม่สามารถป้องกันเหตุการณ์เหล่านี้ได้

ที่อยู่ บ้าน อาคาร เป็นสถานที่ที่หลายคนรู้สึกว่าเป็นที่ปลอดภัย แต่เมื่อเกิดแผ่นดินไหว คุณอาจตกอยู่ในอันตรายจากสิ่งของในบ้านได้ เพราะภัยจากแผ่นดินไหวมีมากกว่าเพียงแค่แรงสั่นสะเทือน ความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวล้วนแล้วแต่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ตามมา เช่น ดินถล่ม ไฟไหม้ แผ่นดินแตกร้าว ฯลฯ โดยโอกาสเกิดอันตรายจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับโครงสร้างของบ้าน และวิธีจัดเก็บบ้านของคุณ บทความนี้เราจะมาวิเคราะห์ถึงอันตรายของเหตุแผ่นดินไหว และวิธีต่าง ๆ ที่จะช่วยให้บ้านของคุณได้รับความเสียหายน้อยลง

แรงสั่นสะเทือน เกิดจากการขยับของเปลือกโลกเมื่อเกิดแผ่นดินไหว คลื่นพลังงานสูงนี้สามารถก่อให้เกิดภัยตามมาได้เช่น

  1. พื้นดินเกิดการแตกและเคลื่อนย้าย: ผลข้างเคียงของเหตุแผ่นดินไหวในบางกรณีคือ พื้นดินแยกออกจากกัน ผลกระทบนี้สามารถทำลายพื้นที่ได้เป็นบริเวณกว้าง ทำให้เกิดปัญหาต่อระบบคมนาคมและระบบท่อใต้ดินต่าง ๆ
  2. ดินถล่ม: แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวสามารถก่อให้เกิดเหตุดินถล่มได้ โดยเฉพาะในบริเวณที่มีความชื้นในดินสูง เพราะหากดินสะสมความชื้นไว้เป็นจำนวนมาก สภาพของดินจะเปลี่ยนแปลงไป ดินที่เหลวจะไม่สามารถจับตัวกันอยู่อย่างแข็งแรง ดังนั้นเมื่อพื้นสั่นสะเทือนดินจึงถล่ม และเมื่อดินถล่ม อันตรายย่อมมาพร้อมกับสิ่งต่าง ๆ ในเนื้อดิน เช่น หิน ต้นไม้ ฯลฯ ที่อาจทำอันตรายต่อคุณหรือที่อยู่อาศัยของคุณได้
  3. พื้นดินเปลี่ยนสภาพเป็นของเหลวเพราะแรงสั่นสะเทือน: การแปรสภาพของพื้นดินจากแรงสั่นสะเทือนส่งผลต่อรากฐานของสิ่งก่อสร้าง ทำให้ตึกทรุดจมลงในดิน หรือล้มกระแทกจนโครงสร้างแตกออกจากกัน
  4. คลื่นสึนามิ: แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในบริเวณทะเลแปซิฟิกจะก่อให้เกิดสึนามิซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลกระทบที่อันตรายมาก เพราะซากต่าง ๆ จากท้องทะเลรวมไปถึงสิ่งที่โดนน้ำกวาดเข้ามาสามารถทำอันตรายต่อคุณและอาคารได้ ดังนั้นเมื่อคุณรับรู้ถึงสัญญาณเตือนสึนามิจึงควรอพยพให้เร็วที่สุด เพราะความแข็งแรงของบ้านไม่อาจต้านแรงปะทะของน้ำปริมาณมากได้
  5. ไฟไหม้: ไฟไหม้ที่เกิดจากแผ่นดินไหวเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ง่าย นั่นเป็นเพราะแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นต่ออาคารจะก่อกวนระบบเดินสายไฟ รวมถึงแก๊สต่าง ๆ ก็สามารถก่อให้เกิดประกายไฟได้ ดังนั้นหากสิ่งของในบ้านไม่ได้ถูกจัดเก็บโดยคำนึงถึงความปลอดภัยก็อาจเกิดไฟไหม้ตามมา

การทำความเข้าใจต่อความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับที่อยู่อาศัยของคุณ จะช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งบ้านเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจตามมาได้ นี่คือหลายๆ วิธีที่คุณสามารถนำไปใช้เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายจากแผ่นดินไหวต่อที่อยู่อาศัยของคุณ

  1. เคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์น้ำหนักมากออกห่างจากบริเวณที่คุณนอนหลับพักผ่อน ยึดเฟอร์นิเจอร์เข้ากับผนังบ้านด้วยอุปกรณ์ที่มีความยืดหยุ่นเล็กน้อย และย้ายของที่มีน้ำหนักมากลงมาไว้ที่พื้น เพื่อให้เส้นทางหลีกหนีไม่ถูกกีดขวางด้วยเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ และลดโอกาสเกิดอันตรายหากสิ่งเหล่านั้นล้มลงมาใส่คุณจนทำให้เกิดการบาดเจ็บ

    วิธีสร้างบ้านให้ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน และความเสียหายที่อาจตามมาจากแผ่นดินไหว

  2. เลื่อนที่นั่งและโต๊ะออกห่างจากหน้าต่าง ป้องกันกระจกแตกโดยการติดตั้งแผ่นพลาสติกติดกระจก วิธีนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยกำจัดสิ่งกีดขวางที่อาจเป็นอันตรายต่อคุณในขณะหลบภัย และหากท้ายที่สุดแล้วบ้านของคุณยังอยู่ในสภาพดีก็ไม่จำเป็นต้องติดตั้งกระจกใหม่

    วิธีสร้างบ้านให้ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน และความเสียหายที่อาจตามมาจากแผ่นดินไหว

  3. จัดเก็บเครื่องแก้วไว้ในตู้ เพื่อป้องกันเศษแก้วบาดเมื่อคุณจำเป็นต้องหลบหนีออกนอกตัวอาคาร

    วิธีสร้างบ้านให้ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน และความเสียหายที่อาจตามมาจากแผ่นดินไหว

  4. สวมซีลยางที่เฟอร์นิเจอร์ที่มีขอบแหลม เพื่อความปลอดภัยต่อตัวคุณเองและผนังบ้าน ลดโอกาสเกิดอันตรายต่อคุณเมื่อสิ่งนั้นเกิดการเคลื่อนที่ และเพื่อป้องกันความเสียหายเมื่อเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นกระทบกับผนังหากวัสดุผนังไม่แข็งแรงพอ

    วิธีสร้างบ้านให้ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน และความเสียหายที่อาจตามมาจากแผ่นดินไหว

  5. ติดตั้งด้วยแผ่นยิปซัมที่ทนต่อแรงกระแทกเพิ่มเสริมความแข็งแรง: การใช้โครงสร้างแบบเดิมๆที่เป็นผนังก่ออิฐฉาบปูนอาจไม่แข็งแรงพอที่จะรองรับแรงกระแทกจากเฟอร์นิเจอร์ในบ้านได้ คนอฟจึงอยากแนะนำผลิตภัณฑ์ของเราที่สามารถทนแรงกระแทกเป็นพิเศษ

    แผ่นยิปซัม DenseShield ทนทานต่อแรงกระแทกระดับสูงสุด (Severe Duty) ตามมาตรฐาน BS 5234 และมีการติดตั้งร่วมกับระบบโครงคร่าวผนัง KW50 ตราคนอฟด้วยคุณสมบัติที่โดนเด่นในเรื่องของการทนต่อแรงกระแทกและยังสามารถออกแบบระบบให้ทนไฟได้ไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมงเมื่อติดตั้งตามมาตรฐานคนอฟอีกด้วยนั่นหมายความว่า คุณจะอุ่นใจและรู้สึกปลอดภัยเสมอ

    วิธีสร้างบ้านให้ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน และความเสียหายที่อาจตามมาจากแผ่นดินไหว

  6. คำนึงถึงโครงสร้างภายใน ถึงแม้ว่าอันตรายส่วนมากล้วนเกิดขึ้นจากสิ่งของในบ้าน แต่โครงสร้างบ้านก็สามารถเกิดการทรุดได้ หากที่อยู่อาศัยของคุณถูกสร้างขึ้นมาเกินกว่า 20 ปี เราแนะนำให้คุณรับคำปรึกษาจากวิศวกร เพื่อฟังคำแนะนำเกี่ยวกับการปรับปรุงบ้านเพื่อชะลอการเสื่อมสภาพ

    วิธีสร้างบ้านให้ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน และความเสียหายที่อาจตามมาจากแผ่นดินไหว

  7. ติดตั้งคานรับน้ำหนักใต้บ้าน เพื่อให้ที่อยู่ของคุณแข็งแรงทนทานยิ่งขึ้น เราแนะนำให้คุณตรวจสอบคานรับน้ำหนักใต้บ้านว่าได้มาตรฐานหรือไม่ เพื่อป้องกันบ้านไม่ให้ทรุดตัวลง

    วิธีสร้างบ้านให้ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน และความเสียหายที่อาจตามมาจากแผ่นดินไหว

  8. จ้างวิศวกรเข้าตรวจสภาพที่อยู่อาศัย เพื่อหาจุดบกพร่องภายใน และเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีปรับแต่งโครงสร้างทั่วไปหรือวิธีปกป้องบ้านเมื่อเผชิญกับปัญหาภัยธรรมชาติ

    วิธีสร้างบ้านให้ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน และความเสียหายที่อาจตามมาจากแผ่นดินไหว

  9. ติดตั้งฐานบ้านให้เรียบร้อย เพราะหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดคือการติดตั้งธรณีประตูที่ได้มาตรฐาน หากธรณีประตูของคุณไม่ได้รับการติดตั้งที่ดี เมื่อเกิดการสั่นสะเทือนอาคารของคุณจะเคลื่อนที่ออกจากฐานบ้าน เพราะไม่ได้รับการยึดเหนี่ยวจากทุกทิศทาง

    วิธีสร้างบ้านให้ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน และความเสียหายที่อาจตามมาจากแผ่นดินไหว

  10. ป้องกันหน้าต่าง เพราะหน้าต่างสำคัญกว่าที่คิด หากคุณป้องกันหน้าต่างเป็นอย่างดีเมื่อเกิดไฟไหม้ประกายจะไม่สามารถลอดเข้ามาในที่อยู่ของคุณได้ (ไฟไหม้เป็นหนึ่งในผลข้างเคียงของแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นบ่อย) เป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้ตัวคุณอีกระดับ การป้องกันหน้าต่างจากแรงสั่นสะเทือนมีหลากหลายวิธี ทางที่คุ้มราคาที่สุดเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กระจกคือการติดตั้ง ‘safety film’ ฟิล์มนิรภัยเสริมบานกระจก

    วิธีสร้างบ้านให้ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน และความเสียหายที่อาจตามมาจากแผ่นดินไหว

  11. เลือกวัสดุใหม่ให้หลังคา เมื่อถึงเวลาซ่อมแซมหลังคา เราแนะนำให้คุณเลือกใช้วัสดุน้ำหนักเบา มีดีไซน์ที่คำนึงถึงความปลอดภัยจากแผ่นดินไหว เช่น อะลูมิเนียม ยางมะตอย ฯลฯ ยิ่งน้ำหนักน้อยยิ่งปลอดภัย เพราะน้ำหนักหลังคาจะไม่ค้ำโครงสร้างจนเกินไป ช่วยให้บ้านไม่ทรุด

    หลังคายางมะตอย

    • ทนทานต่อสภาพอากาศและป้องกันความร้อนจากแสงแดดได้ดี สามารถดัดโค้งและมีหลายสีให้เลือก จึงเหมาะกับการนำไปสร้างหลังคาหลายรูปทรง แผ่นหลังคามีน้ำหนักเบา ไม่แตกร้าวง่าย ติดตั้งง่าย เสียงไม่ดังเวลาฝนตก จึงเหมาะกับประเทศไทยที่มีฝนตกบ่อย
    • ไม่เป็นสนิมตลอดอายุการใช้งานทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนหลังคาบ่อย
    • ลดอุณหภูมิภายในอาคารมากกว่าแผ่นเหล็ก 3-12 องศา ช่วยประหยัดไฟ
    • มีน้ำหนักเบากว่าเมทัลชีท 3 เท่า ช่วยประหยัดโครงสร้าง
    • ทนต่อการกัดกร่อนจากสารเคมี

    วิธีสร้างบ้านให้ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน และความเสียหายที่อาจตามมาจากแผ่นดินไหว

  12. รู้ที่ตั้งของวาล์วปิดแก๊สในตัวอาคาร คุณควรรู้วิธีจัดการกับรวาล์วแก๊สภายในที่อยู่อาศัย หากตัวถังไม่มีระบบปิดอัตโนมัติเมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือน ลองสอบถามบริษัทที่เกี่ยวข้องเพื่อความปลอดภัยของคุณ ขั้นตอนนี้จะช่วยลดโอกาสเกิดไฟไหม้จากแก๊สอันตรายได้

    วิธีสร้างบ้านให้ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน และความเสียหายที่อาจตามมาจากแผ่นดินไหว

  13. เลือกติดตั้งหน้าต่างมุมโค้ง กระจกมุมแหลมเป็นรูปแบบที่เราคุ้นเคยกันดี แต่สิ่งที่คุณอาจไม่ทราบคือกระจกที่มีมุมรูปแบบนี้อ่อนแอต่อการแตกเมื่อเกิดแรงสะเทือน หน้าต่างจะอยู่ทนทานมากขึ้นหากคุณเปลี่ยนกระจกเป็นรูปแบบมุมโค้ง

    วิธีสร้างบ้านให้ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน และความเสียหายที่อาจตามมาจากแผ่นดินไหว

การคาดการณ์ปัญหาก่อนที่จะเกิดขึ้นยังไงก็เป็นวิธีการที่ง่ายกว่าการรอรับมือกับปัญหาในภายหลัง เราแนะนำให้คุณตรวจสภาพที่อยู่ของคุณอย่างรอบคอบเพื่อจัดการปัญหาโครงสร้างก่อนที่ภัยจะเกิด และคุณควรจ้างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาดูแลปัญหา เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคุณ ด้วยวิธีที่การรับมือที่ได้มาตรฐานและการป้องกันที่ดี บ้านของคุณจะปลอดภัยกว่าเดิมหลายเท่าแน่นอน

หากคุณสนใจเกี่ยวกับการปรับปรุงที่อยู่อาศัย เราแนะนำให้คุณเข้ามาเยี่ยมชมบล็อกที่คนอฟจะอัปเดทสาระน่ารู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับการก่อสร้างอย่างสม่ำเสมอ: https://knauf.co.th/article.php?lang=th

มาปรับปรุงบ้านกันนะคะ

ยิปซัม คนอฟ คุณภาพดี เทคโนโลยีเยอรมัน

Article