ทุกอย่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับปฏิกิริยาของความร้อนต่อบ้านคุณและวิธีรับมือ

ทุกอย่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับปฏิกิริยาของความร้อนต่อบ้านคุณและวิธีรับมือ

แสงอาทิตย์มีความสำคัญต่อสถาปัตยกรรมและผู้อยู่อาศัยเป็นอย่างมาก หากไม่ได้รับแสงอาทิตย์มากเพียงพอสามารถส่งผลต่อบรรยากาศในที่นั้นๆ ได้พอสมควร รวมไปถึงผลข้างเคียงที่อาจตามมาเมื่อขาดคุณสมบัติการฆ่าเชื้อตามธรรมชาติของแสงอาทิตย์ แต่แสงอาทิตย์ก็มีผลเสียด้วยเช่นกัน ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับธรรมชาติของแสงอาทิตย์ และความอันตรายที่อาจเกิดขึ้นเพราะรังสียูวี

ทุกอย่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับปฏิกิริยาของความร้อนต่อบ้านคุณและวิธีรับมือ

อะไรคือรังสียูวี?

รังสียูวีเป็นรังสีที่เกิดจากแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นเพราะพระอาทิตย์ แต่สามารถพบเจอได้ในอุปกรณ์เช่น เตียงอาบแดด และไฟยูวีได้เช่นกัน แต่ทว่ารังสียูวีไม่ได้เป็นอะไรที่แย่เสียทีเดียว ผลเสียนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณที่คุณได้รับ รังสียูวีจะมีค่าแรงขึ้นเมื่อคุณอยู่ในที่สูง(ใกล้ชั้นบรรยากาศมากขึ้น) นี่เป็นสาเหตุที่รังสียูวีจะแรงขึ้นเมื่ออยู่บนหุบเขาเพราะคุณใกล้ชิดกับรังสีที่ไม่ได้ถูกคัดกรอง

ทุกอย่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับปฏิกิริยาของความร้อนต่อบ้านคุณและวิธีรับมือ

ทำไมรังสียูวีจึงเป็นอันตรายต่อสิ่งก่อสร้าง?

ความอันตรายของรังสียูวีต่อผิวหนัง และอัตราความเสี่ยงเกิดมะเร็งผิวหนังเพราะรังสีชนิดนี้ได้มีการศึกษาแล้วณระดับหนึ่ง แต่รังสียูวีก็ยังสามารถทำลายวัสดุหลายๆ ชนิดได้อีกด้วยหากมีการสัมผัสกับรังสีเป็นเวลาต่อเนื่อง ที่แย่กว่านั่นคือรังสีชนิดนี้ไม่มีสี นั่นหมายความว่าคุณเองอาจไม่สังเกตมันก่อนที่ผลข้างเคียงที่ดูแลยากได้เกิดขึ้นแล้ว

รังสียูวีเป็นอันตรายมาก แต่ความเสียหายจะเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและปรากฏให้เห็นเมื่อเหตุผลอื่นๆ เข้ามาประกอบรวมกันเช่น วัสดุบางชนิดมีองค์ประกอบที่ทำให้คลื่นรังสี UV ผ่านเข้าไปทำลายได้ง่ายขึ้น หากคุณรู้ว่าองค์ประกอบเหล่านี้คืออะไรจะช่วยให้คุณปกป้องบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นี่คือหลายๆ วิธีที่รังสียูวีสามารถทำความเสียหายกับบ้านได้ รังสียูวีสามารถสร้างความเสียหายต่อหลังคาบ้านได้หลายวิธี เมื่อนับเวลาแล้วรังสีอาจทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้:

  • การรั่ว
  • สีหมองลง
  • การเสื่อมสภาพของชั้นวัสดุภายใน

แม้จะมีรังสียูวีเป็นปริมาณน้อยก็ยังสามารถก่อให้เกิดอันตรายได้มากพอสมควร นี่คือหลายๆ ปัญหาที่คุณอาจพบเห็นเพราะรังสียูวี

  • การเสื่อมสภาพ หลังคาส่วนมากมีองค์ประกอบของสารเคมีหลากหลายชนิด สารต่างๆ เหล่านี้จะเกิดการย่อยสลายเมื่อกระทบกับรังสียูวีอย่างต่อเนื่องเป็นระยะยาว
  • เกิดการพองตัว การพองตัวจะเกิดขึ้นเมื่อมีการสะสมของความชื้นใต้ชั้นวัสดุ ซึ่งทำให้วัสดุเริ่มสลายตัว แตกออก ทำให้ประสิทธิภาพลดลงโดยรวม
  • ความร้อน ความเสียหายชนิดนี้เกินขึ้นเมื่อความร้อนขังตัวอยู่ใต้ชั้นวัสดุทำให้วัสดุหดตัวโดยเร็วจนเกินไปทำให้เกิดการแตกรอยร้าว

หลังคาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านที่คุณควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเมื่อพูดถึงเรื่องแสงอาทิตย์และรังสีเพราะหลังคาเป็นจุดรองรับด่านแรกจากดวงอาทิตย์

ทุกอย่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับปฏิกิริยาของความร้อนต่อบ้านคุณและวิธีรับมือ

หลังคาเหล็กเป็นหนึ่งในวัสดุที่ได้รับความนิยมมากพอสมควรเพราะความทนทาน เพราะวัสดุนี้สามารถช่วยประหยัดพลังงานโดยการสะท้อนรังสีอันตรายจากแสงอาทิตย์ออกจากตัวบ้าน พร้อมยังสามารถดูดรังสีอันตรายได้มาก ในช่วงหน้าร้อนหากหลังคาของคุณสามารถสะท้อนแสงได้โดยมากจะช่วยให้บ้านไม่ร้อน นั่นหมายความว่าคุณจะประหยัดพลังงานได้มาก ผลตรวจสอบพบว่าบ้านที่ติดตั้งหลังคาเหล็กช่วยลดค่าใช้พลังงานได้มากถึง40%

*ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้วัสดุแบบไหนเราแนะนำให้คุณหมั่นตรวจสอบหลังคาอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันก่อนที่จะเกิดปัญหาใหญ่ที่แก้ไขยาก

ปัญหาเรื่องสีหมองลงเพราะแสงแดด และ วิธีรับมือ

ปัญหาเรื่องสีเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะทำให้สภาพแวดล้อมของคุณโทรมลง สีทาบ้านเมื่อโดนรังสียูวีอย่างต่อเนื่องจะเริ่มหมองลงตามกาลเวลา ทำให้พื้นผิวจับกลุ่มกันเป็นลักษณะขรุขระและดูเปื้อนฝุ่น เมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์สี แดง สีฟ้า และ สีเหลืองจะเริ่มจางเร็วกว่าเนื้อสีอื่นๆ

  • คำตอบคือการเลือกใช้สีทาบ้านที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันรังสียูวี หากคุณเลือกใช้สีคุณภาพดีสีนั้นสามารถเคลือบผนังบ้านจากการเสื่อมสภาพที่เกิดจากน้ำซึม และช่วยสะท้อนรังสียูวี ป้องกันสีที่คุณต้องการ รวมทั้งป้องกันวัสดุก่อสร้างได้อีกด้วย
  • สีที่มีส่วนผสมของลาเท็กซ์เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการทาสีข้างนอกบ้าน สีลาเท็กซ์มีส่วนประกอบของอะคริลิคที่สามารถช่วยให้สียืดหยุ่นขึ้นนั้นจะช่วยให้ไม่เกิดการแตกร้าวเมื่อโดนแสงอาทิตย์เป็นระยะยาว

ดาดฟ้าและเฟอร์นิเจอร์

ตามกาลเวลาวัสดุไม้แต่ละสีจะมีการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกันไปไม่ว่าสีจะเข้มขึ้น หรืออ่อนลงเพราะแสงแดด เมื่อปะทะกับรังสียูวีเป็นเวลาต่อเนื่องอาจทำให้วัสดุของคุณแตกหรือบิดเบี้ยวได้เพราะความร้อนที่กำจัดความชื้นออกจากไม้จนมากเกินไป นั่นเป็นสาเหตุที่คุณควรเฝ้าระวังพื้นที่พักผ่อนกลางแจ้งโดยเฉพาะโครงสร้างที่ทำมาจากไม้

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการสร้างบ้านด้วยไม้ การทาสีป้องกันยูวีเป็นวิธีดูแลรักษาวัสดุที่ดีที่สุด แต่อาจไม่ใช่วิธีการแก้ในระยะยาวที่ได้ประสิทธิภาพสูงสุด หากคุณต้องการให้ไม้อยู่คู่บ้านของคุณไปนานๆ เราแนะนำให้คุณติดตั้งกันสาดขึ้นเพื่อบังแดด คุณควรปรึกษาช่างเฉพาะทางเพื่อปรึกษาเรื่องวิธีดูแลวัสดุที่ดีที่สุด

นี่คือวิธีต่างๆ ที่จะช่วยคุณปกป้องบ้านจากปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเพราะแสงอาทิตย์

  1. ติดตั้งฟิลม์กรองรังสี: โดยส่วนมากแล้วปริมาณรังสียูวีภายในบ้านเกิดการสะสมเพราะแสงอาทิตย์ เพียงแค่รังสีในปริมาณน้อยก็ทำให้เกิดปัญหาได้มากเพราะรังสียูวีเป็นเหตุผลที่เครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ และทุกอย่างในบ้านมีสีจางลง มีข้อมูลพบว่าหน้าต่างมีส่วนช่วยกรองรังสีในระดับหนึ่งแต่เป็นเพียงแค่ 25% เท่านั้น เพราะฉะนั้นหนึ่งในวิธีที่เราจะป้องกันปัญหาได้คือการเสริมฟิลม์บังรังสีให้กับหน้าต่างในบ้าน

  2. เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่กลมกลืน: พรมปูพื้น ผ้าม่าน อะไรก็ตามแต่ที่ถูกหุ้มด้วยเนื้อผ้ามีความอ่อนแอต่อแสงแดดเอามาก เมื่อเลือกเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านหากเป็นไปได้เราแนะนำให้คุณเลือกใช้วัสดุสีอ่อนเพื่ออำพรางสีที่จะจางลงตามกาลเวลา ควรเลือกซื้อวัสดุที่ใช้ผ้าที่มีส่วนผสมของใยสังเคราะห์เช่น ผ้าฝ้าย ที่จะหมองช้ากว่าผ้าไนลอน และผ้าโพลีเอสเตอร์ สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่คุณมีอยู่แล้วสามารถใช้สเปรย์กันยูวีได้

  3. ปกป้องพื้นด้วยการปูพรม: เราแนะนำปกป้องพื้นด้วยการปูพรมหากคุณมีพื้นไม้ ถ้าคุณเป็นห่วงเรื่องสีจากเราแนะนำให้คุณหมั่นทาสีเคลือบที่ใกล้เคียง กับสีไม้ที่มีส่วนผสมของสารกันรังสียูวี

  4. ปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มร่มเงา: วัสดุตกแต่งบ้านส่วนมากแล้วมีส่วนประกอบของสารเคมีที่สามารถป้องกันรังสียูวีได้ แต่วัสดุหลายๆ ชนิดย่อมเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาเพราะรับการปะทะกับแสงอาทิตย์ตลอดเวลา เราจึงอยากแนะนำให้คุณปลูกต้นไม้เพราะนอกจากจะเป็นสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติปลอดภัยต่อผู้พักอาศัยแล้ว ยังดูแลง่ายและช่วยให้บ้านรู้สึกร่มรื่นสวยงาม ต้นไม้จะช่วยกรองแสงให้คุณยังได้รับแดดประมาณนึงโดยที่ไม่ขาดแสงแดดเลยโดยสิ้นเชิง

  5. เลือกใช้วัสดุกันสาดที่ถูกชนิด: เลือกใช้วัสดุกันสาดที่ถูกชนิด เพราะวัสดุที่ทนความร้อนได้ไม่เพียงพอจะเกิดการบิดเบี้ยวเพราะอุณหภูมิสะสม เราแนะนำให้คุณเลือกใช้วัสดุที่สามารถป้องกันรังสี ยูวีและควรเลือกสีอ่อนเพื่อสะท้อนแสงแดดออกห่างจากที่พัก เราแนะนำให้คุณเพิ่มซีลแลนท์เพื่อไม่ให้กันสาดขังความร้อนไว้ในตัว

  6. เข้าใจวิธีจัดการบริหารอุณหภูมิในที่พัก: นอกจากวิธีการป้องกันการดูดรังสียูวีและการสะท้อนแสงแล้ว เป็นเรื่องสำคัญมากที่คุณควรจะทำความรู้จักกับวิธีต่างๆ ที่จะช่วยบริหารอุณหภูมิภายในที่พักของคุณ หากที่พักของคุณกำลังอยู่ในระหว่างการสร้าง (คุณกำลังศึกษาเพื่อเป็นวิธีการป้องกัน) เราแนะนำให้คุณเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แผ่นยิปซัมกันร้อน Knauf HeatShield

เพราะเหมาะสำหรับ

ผนังและฝ้าเพดานภายในพื้นที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ในบริเวณที่มีความต้องการการสะท้อนของความร้อนที่ดียิ่งขึ้นเช่นผนังทางด้านฝั่งตะวันตกหรือผนังบริเวณห้องใต้หลังคา

ข้อมูลทางด้านเทคนิค

  • สะท้อนรังสีความร้อนได้สูงถึง 89% ด้วยการบุแผ่นสะท้อนความร้อนที่ด้านหลังของแผ่น
  • ไม่ดูดซับความร้อน ด้วยคุณสมบัติพิเศษของเนื้อยิปซัมที่เป็นฉนวนกันความร้อนและไม่ลามไฟ
  • เรียบ เนียน และสวยงามเหมาะสำหรับการออกแบบในหลากหลายพื้นที่
  • สามารถติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว
  • ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน
  • ไม่มีสารประกอบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

วิธีการติดตั้ง

เพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุดควรติดตั้งโดยใช้ทั้งระบบฝ้าเพดานและระบบผนังของคนอฟ

ทุกอย่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับปฏิกิริยาของความร้อนต่อบ้านคุณและวิธีรับมือ

โดยสรุปแล้วเมื่อเราได้ทำความรู้จักกับรังสียูวีและพฤติกรรมต่างๆ ของมัน เราหวังว่าบทความนี้ที่เราได้ศึกษาผลข้างเคียงต่างๆ ของแสงแดดต่อที่พักอาศัยได้ช่วยให้คุณเข้าใจธรรมชาติของการป้องกันบ้านจากแสงแดดมากขึ้น เราหวังว่าวิธีการรับมือต่างๆ ที่เราได้เสนอไปจะช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้คุณเริ่มปรับแต่งโครงสร้าง และเลือกใช้วัสดุต่างๆ เพื่อให้บ้านที่เรารักได้คงสภาพอยู่กับเราไปนานๆ

หากคุณสนใจบทความต่างๆ เกี่ยวกับวิธีดูแลบ้าน และวิธีตกแต่งบ้านหลากหลายวิธี เราแนะนำให้คุณลองเข้ามาอ่านบทความที่เว็บไซต์ของเราซึ่งจะได้รับการอัพเดทสองรอบต่อเดือนในหัวข้อเรื่องบ้าน และอาคาร https://knauf.co.th/article.php?lang=th

ทุกอย่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับปฏิกิริยาของความร้อนต่อบ้านคุณและวิธีรับมือ

Article