10 วิธีกำจัดความชื้นภายในบ้าน
เคยสงสัยกันมั้ยว่ารอยบวม หรือ คราบสีหม่นๆบนผนังนั้นเกินมาจากอะไร?
เมื่อพูดถึงวิธีการก่อสร้างแน่อยู่แล้วว่าอุปสรรคนั้นคงมีมากมาย แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงปัญหาภายในบ้านที่แม้แต่บุคคลธรรมดาก็คุ้นเคยกันนั่นคือปัญหาที่เกิดจากความชื้น
ความชื้นหมายถึงอะไร?
ความชื้น หรือ ความชื้นสัมพัทธ์ คือ ปริมาณไอน้ำที่อยู่ในอากาศซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากความดัน และ อุณหภูมิ นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมในช่วงหน้าฝนบ้านของคุณจะรู้สึกชื้นขึ้น และ หากวัสดุภายในบ้านของคุณไม่มีคุณสมบัติในการต้านความชื้น หรือ ภายในบ้านไม่มีการถ่ายเทอากาศที่ดีคุณจะประสบปัญหากับฝ้า และ ผนังภายใน นอกจากความชื้นในอากาศแล้ว ความบกพร่องกับเครื่องใช้ในบ้านที่เชื่อมต่อกับท่อน้ำหากทิ้งไว้นานๆก็สามารถทำให้เกิดรอย และ เชื้อราได้ เช่นกัน
ความชื้นเกิดขึ้นได้สองแบบ ความชื้นที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ และ ความชื้นที่เกิดเมื่อมีน้ำขัง หรือ เครื่องใช้ชำรุด
ความชื้นระเหย:
เกิดขึ้นเมื่อความชื้นที่ระเหยขึ้นจากดินเมื่ออากาศร้อน ไอระเหยจะเริ่มซึมเข้าไปในโครงสร้างที่พักอาศัย น้ำในดินจะซึมผ่านเข้ามาทางฐานบ้าน หากวัสดุนั้นมีรูระบายอากาศเยอะเช่นอิฐชนิดที่ใช้ระบายลม หรือ วัสดุที่เก่ามาก แม้กระทั่งรอยแยกระหว่างกระเบื้องก็ส่งผลต่อบ้านได้ในระยะยาว ช่องว่างเหล่านี้จะทำให้บ้านของคุณเริ่มอับชื้น
ความชื้นที่เกิดขึ้นเพราะเครื่องใช้ชำรุด หรือ บริเวณต้องการการซ่อมแซม:
ทุกคนควรหมั่นตรวจสอบโครงสร้างในบ้านโดยเฉพาะผนังภายนอกที่สัมพัทธ์กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศมากกว่าส่วนอื่น ในกรณีนี้น้ำที่อาจจะมาจากท่อที่รั่ว หรือ อะไรก็แล้วแต่ได้ซึมเข้าสู่ตัวบ้านผ่านรอยร้าวที่ไม่ได้รับการซ่อมแซม และ ปัญหานี้เป็นอะไรที่หลายๆบ้านคงคุ้นเคยเพราะส่วนใหญ่แล้วปัญหาที่เกิดจากโครงสร้างบ้านมักเป็นอะไรที่เราไม่ค่อยสังเกตกัน
ความชื้นในบ้านนั้นมีผลกระทบมากกว่าที่คุณคิดนี่คือสิ่งต่างๆที่จะตามมาหากจุดบกพร่องเหล่านี้ไม่ได้รับการแก้ไข
- กลิ่นเหม็นอับภายในบ้าน
- มีราสีดำรูปร่างเป็นกลุ่มจุดๆตามบริเวณที่ชื้นเช่น ผนังบ้าน, พื้นบ้าน และ ฝ้าบ้าน
- ผนัง, พื้น และ ฝ้าจะรู้สึกเปียกเมื่อสัมพัทธ์
- รอยด่างดำบนผนังบ้านที่กำจัดยาก
- ผนังบวมน้ำ และ โป่งออกจากตัวผนัง ทิ้งไว้นานๆรอยเหล่านี้จะเริ่มลอก
ราสีดำบนผนังมีอันตรายต่อสุขภาพมั้ย?
ส่วนมากแล้วราที่อยู่ภายในบ้านนั้นจะไม่ค่อยเป็นอันตรายนอกจากว่าสปอร์ (spore) นั้นได้ฝังตัวลงไปในบริเวณที่เปียกชื้น และ เริ่มเจริญเติบโตขึ้นสามารถทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ เชื้อราสามารถผลิตสารก่อภูมิแพ้ (เชื้อที่ทำให้เกิดอาการแพ้), การอักเสบ และในบางกรณีรานั้นจะเริ่มเป็นสารพิษ (mycotoxin= สารพิษจากเชื้อรา) หากสูดดม หรือ สัมพัทธ์เชื้อรานั้นสปอร์จากราอาจทำให้เกิดอาการแพ้ในบุคคลที่อ่อนไหว อาการแพ้อาจมาในรูปแบบการจาม, คัดจมูก, น้ำมูกไหล,ตาแดง และ โรคผิวหนัง (dermatitis) เชื้อราหากปล่อยไว้นานๆเข้าจะเริ่มทำลายสิ่งที่มันเกาะอยู่ คุณสามารถช่วยดูแลบริเวณที่มีเชื้อรา หรือ สิ่งของในบ้านที่มีคราบได้ง่ายๆโดยการกำจัดราทิ้ง และ หมั่นดูแลเรื่องความชื้นภายในบ้าน
ในเมื่อเราได้ศึกษากันไปแล้วว่าปัจจัยที่ทำให้บ้านชื่นนั้นเกิดจากอะไร Knauf เรามีคำตอบที่ช่วยคุณได้ และ มันง่ายกว่าที่คุณคิด
1. Dehumidifier (เครื่องดูดความชื้น)
Dehumidifier นั้นมีหลากหลายรูปแบบ ลักษณะที่เราคงคุ้นเคยกันมากที่สุดคือซองเล็กๆในขนมที่คุณเคยทาน ในถุงนั้นคือกันชื้นใส่อาหาร หรือ ซิลิก้าเจล (silica gel) นั่นเอง ส่วนผสมของมันนั้นประกอบไปด้วยทรายขาว และ กำมะถันเป็นลูกกลมๆเพื่อป้องกันเชื้อรา และ ทำให้ความกรอบไม่หายไป แต่หากเราจะใช้ทฤษฎีเดียวกันกับห้องนั้นเราจะต้องใช้เครื่อง Dehumidifier วิธีกำจัดความชื้นอย่างแรกที่เราแนะนำคือเครื่องดูดความชื้น ตัวเครื่องนั้นจะทำการดูความชื้นในอากาศ และ กลั่นความชื้นออกมาเป็นน้ำแยกออกมาในช่องกักเก็บภายในตัวเครื่อง หลังจากนั้นเครื่องจะทำการปล่อยอากาศแห้งกลับสู่ตัวห้อง นั่นแหละค่ะจึงทำให้เครื่องตัวนี้เป็นคำตอบสำหรับหลายๆคนที่ใช้ง่าย และ ได้ผลจริง
2. ระบายอากาศภายในบ้านให้ถี่ขึ้น
สาเหตุส่วนมากที่ทำให้บ้านชื้นนั่นคือน้ำที่ขังอยู่ไม่มีการระบายออก เพราะฉะนั้นเราแนะนำว่าในวันที่ฝนตก หรือ วันที่ค่อนข้างร้อนอบอ้าวควรจะเปิดกระจก หรือ ประตูทิ้งไว้ เพียงแค่ 10-15 นาทีก็สามารถลดระดับความชื้นได้แล้ว นี่เป็นหนึ่งวิธีดูแลบ้านที่ง่ายที่สุดที่หลายคนมองข้าม ถึงส่วนนั้นของบ้านจะได้รับการดูแลจากวัสดุยิปซัมอย่างดีแล้วก็จะดียิ่งขึ้นไปอีก หากเราช่วยดูแลการระบายอากาศเพิ่มเติมให้บ้าน หรือ อาคารที่คุณอาศัยอยู่
3. เพิ่มช่องระบายอากาศเหนือหน้าขอบหน้าต่าง
เมื่อคุณอยู่ในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศไว้ค่อนข้างแรงในขณะที่ฝนตกข้างนอกทำให้เกิดไอน้ำบนกระจกเนื่องจากอุณหภูมิไม่คงตัว ถึงในประเทศไทยเราอาจจะไม่เจอกับปัญหาไอน้ำบ่อยๆ แต่มันก็เป็นอะไรเล็กๆน้อยๆที่เราควรระวัง เคยสังเกตหรือไม่ เมื่อคุณอยู่ในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศไว้ค่อนข้างแรงในขณะที่ฝนตกข้างนอกทำให้เกิดไอน้ำบนกระจกเนื่องจากอุณหภูมิไม่คงตัว ความชื้นที่เกาะติดกระจกนั้นไม่ควรทิ้งไว้นานๆโดยที่ไม่ได้เช็ดออก นอกจากจะทำให้เกิดคราบบนกระจกแล้วความชื้นนั้นจะซึมเข้าสู่ช่องเล็กๆตรงขอบกระจกซึ่งอาจทำให้เกิดเชื้อราได้
4. เปิดเครื่องระบายอากาศเมื่อคุณอาบน้ำ
เรื่องการระบายอากาศห้องน้ำสำคัญมากๆ เพราะห้องน้ำเป็นหนึ่งในห้องที่ชื้นที่สุด หากมีน้ำขังอยู่ที่ซอกต่างๆอาจทำให้เกิดคราบดำ และ ความชื้นจะซึมเข้าไปในผนังก่อให้เกิดปัญหาต่างๆตามมา เพราะฉะนั้นควรเปิดเครื่องระบายอากาศไว้ระหว่าง และ หลังอาบน้ำ พยายามอย่าเปิดประตูห้องทิ้งไว้ความชื้นจะได้ระบายออกจากตัวบ้านโดยช่องของเครื่องระบายทางเดียว
5. ครอบฝาหม้อเวลาทำอาหาร
คำแนะนำนี้อาจเป็นอะไรที่ดูเล็กน้อยแต่รับรองว่าผนังครัวของคุณจะสะอาดไร้คราบนานขึ้น ถ้าสังเกตภายในบ้านส่วนมากแล้วเตาทำอาหารหากไม่ได้ถูกแยกออกจากตัวบ้านจะอยู่ติดกับผนังห้อง เมื่อต้มน้ำไอระเหยจะเกาะติดผนัง และ ถ้าบริเวณตรงนั้นหากไม่ได้มีการเช็ดน้ำจากไอระเหยน้ำจะซึมเข้าไปในพื้นผิวของผนังหากสะสมไว้มากมากจะทำให้บริเวณนั้นชื้น เพราะฉะนั้นนอกจากเราจะแนะนำให้ใช้ Knauf MoistureShield แผ่นยิปซัมทนความชื้น และ สีกันความชื้นแล้วเราแนะนำให้ปิดฝาครอบเพื่อให้บ้านอยู่ไปกับเรานานๆ
6. กาวซิลิโคนเชื่อมรอยโหว่
กาวซิลิโคนนั้นเป็นหนึ่งในวัสดุที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องความชื้นความเปียกได้ค่อนข้างดี กาวซิลิโคนหากคุณไม่รู้จักจะสังเกตได้ในห้องน้ำ ช่องเล็กๆระหว่างอ่างอาบน้ำ และ พื้นห้องน้ำจะมีวัสดุเหนียวๆเชื่อมมันอยู่ นั่นแหละคือสิ่งที่ช่วยกักไม่ให้ความชื้นที่ซึมมาจากท่อ หรือ อะไรก็แล้วแต่ภายในผนังออกมาในตัวห้องได้
7. ผนังภายนอกควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด
เป็นปกติที่เราจะใส่ใจกับผนังภายในมากกว่า ผนังในบ้านนั้นเป็นอะไรที่เราเห็นทุกวันจากการพักอาศัย แต่จุดที่มักจะเกิดปัญหาก่อนคือผนังภายนอกที่สัมผัสกับบรรยากาศข้างนอกโดยตรง เราแนะนำว่าคุณควรซ่อมช่องโหว่ในตัวผนังด้วยพลาสเตอร์ที่ผสมด้วยสารกันน้ำ และ ขยันเช็คเรื่องรอยร้าว และ กระเบื้องบนผนังก่อนที่ปัญหาจะบานปลาย
8. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ
ควรหมั่นเช็คเครื่องต่างๆที่อาศัยน้ำ (humidifier)เช่น เครื่องพ่นน้ำหอม, เครื่องเพิ่มความชื้น ฯลฯ เพราะเครื่องใช้พวกนี้พ่นน้ำเข้าสู่อากาศทำให้บ้านชื้นขึ้น หากไม่ได้อยู่บ้าน หรือ ออกไปทำธุระควรจะปิดเครื่องไว้
9. แขวนเสื้อผ้าที่ซักแล้วไว้ข้างนอกบ้าน
ทุกคนส่วนมากแล้วคงจะตากผ้าข้างนอกบ้าน แต่อาจจะมีในบางครั้งที่สภาพอากาศอาจไม่เป็นใจทำให้การตากผ้านั้นยุ่งยากบางคนจึงเลือกตากผ้าภายในบ้าน ความชื้นจากเสื้อผ้าที่แขวนไว้นั้นมีส่วนช่วยทำให้บ้านของคุณชื้นเพราะน้ำที่ระเหยออกจากตัวผ้าจะข้างอยู่ในอากาศ และ หากไม่มีการระบายลม หรือ อากาศไม่ถ่ายเทจะทำให้เกิดความอับชื้น
10. แผ่นยิปซัมบอร์ด Knauf MoistShield
คือแผ่นยิปซัมที่มีหน้ากระดาษสีเชียวอ่อนซึ่งตัวสีนั้นแตกต่างกันออกไป เพื่อบ่งบอกถึงคุณสมบัติของมันนั่นเอง สีเขียวแปลว่าแผ่นนี้เป็นวัสดุกันชื้นเหมาะสำหรับการใช้ในพื้นที่ที่มีอากาศสัมพัทธ์น้ำมากที่สุด เช่น ห้องครัว, ห้องซักผ้า หรือ บริเวณที่ติดตั้งแอร์ ฯลฯ
Knauf MostShield จะกันชื้นได้อย่างไร?
ผิวหน้าของยิปซัมบอร์ดชนิดนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อป้องกันการแทรกซึมเข้าสู่แผ่นทำให้น้ำไม่ขังอยู่ในวัสดุซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการบวมน้ำ, ราเกาะ และ ห้องชื้นนั่นเอง นอกจากคุณสมบัติกันความชื้นแล้วแผ่นยิปซัมคนอฟยังเรียบเนียน, กันเสียงได้ดีหากติดตั้งร่วมกันทั้งระบบ, ทนความร้อนได้ค่อนข้างดี, น้ำหนักเบา ง่ายต่อการติดตั้ง และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
เราหวังว่าข้อมูลที่เราเตรียมมาจะมีประโยชน์กับคุณ ปัญหานั้นย่อมมีวิธีการแก้ไขแต่ที่สำคัญที่สุดคือการเลือกวัสดุที่ดีเพื่อยับยั้งปัญหาก่อนที่จะเกิดขึ้นเพื่อรักษาทั้งเวลา และ เงินซ่อมแซม หากคุณกำลังมองหาวัสดุก่อสร้างสำหรับงานใหม่ของคุณแล้ว เราแนะนำให้คุณกดลิ้งค์อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บเราและ ดูสินค้าต่างๆได้
เพราะการสร้างบ้านคือการสร้างฝัน
ให้ Knauf ดูแลบ้านของคุณ!
ยิปซัมคนอฟ คุณภาพดี เทคโนโลยีเยอรมัน
Article
- REDUCE NOISE POLLUTION BY CHOOSING THE RIGHT GYPSUM FOR THE BUILDING
- HOW TO CHOOSE GYPSUM DESIGN
- HOW TO CHOOSE GYPSUM WHEN THE FIRE
- SHOCK RESISTANCE TEST OF GYPSUM BOARD, IMPACT RESISTANT
- RISKS OF WET AREAS AND CHOICE OF GYPSUM
- CEILING FOR SYSTEM WORK AND MAINTENANCE
- แผ่นยิปซัมบอร์ดประโยชน์สุดคุ้มค่าในการเลือกใช้งาน ตอบโจทย์ทุกมิติ
- เหตุผลที่ควรเลือกใช้งานแผ่นยิปซัมบอร์ดมากกว่าอิฐทนไฟ
- 10 วิธีกำจัดความชื้นภายในบ้าน
- ฝ้า 8 ชนิดที่นิยมใช้ในการสร้างบ้านและอาคาร
- 10 ไอเดียกั้นห้องรูปแบบต่างๆ
- วิธีป้องกันเสียงรบกวนจาก 5 ช่องทาง
- 12 วิธีปรับแต่งบ้านและอาคารเพื่อลดอันตรายจากปัญหาไฟไหม้
- วิธีสร้างบ้านให้ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน และความเสียหายที่อาจตามมาจากแผ่นดินไหว
- วิธีปรับแต่งบ้านให้เป็นมิตรต่อสัตว์เลี้ยง
- 101 วิธีสร้างห้องครัวในฝัน
- ความสำคัญของแสงในการดีไซน์
- วิธีปรับแต่งบ้านและอาคารเพื่อความยั่งยืน
- ทุกอย่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับปฏิกิริยาของความร้อนต่อบ้านคุณและวิธีรับมือ
- วิธีทำสวนอย่างสร้างสรรค์
- การสร้างหอประชุมและโรงบรรยายที่ดี
- วิธีแต่งบ้านให้สวยงามยาวนาน
- การดีไซน์เพื่อสุขภาพ
- เทคโนโลยีสมาร์ทโฮม
- วิธีควบคุมความร้อนเมื่อเริ่มสร้างบ้านในช่วงฤดูร้อน
- 10 อันดับโครงการสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจในเอเชีย
- 9 วัสดุก่อสร้างจากอดีตและปัจจุบัน
- 9 วิธีใช้แผ่นยิปซัมอย่างสร้างสรรค์
- 9 เคล็ดลับที่ไม่ลับเกี่ยวกับงานช่างที่คุณควรรู้
- กลยุทธ์การลดต้นทุนการก่อสร้างให้กับลูกค้า
- ให้ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดด้วยขั้นตอนง่ายๆ ก่อนเริ่มงาน
- อัปเดตปี 2023 อาคารที่ได้รับความนิยมสำหรับสายก่อสร้าง
- วิธีจัดการวัสดุหลงเหลือจากงานก่อสร้าง
- เคล็ดลับก่อสร้างแบบรักษ์โลก
- 6 เทคโนโลยีตัวช่วยในวงการก่อสร้าง
- ทำงานบนที่สูงอย่างไรให้ปลอดภัย
- GREEN BUILDING 7 อาคารสีเขียวไอคอนนิกทั่วมุมโลก ให้ชีวิตดีขึ้นและรักษ์โลกมากขึ้น
- รู้ก่อนป้องกันได้กับ 12 ความเสี่ยงจากงานก่อสร้าง
- 5 อาคารในอนาคตรับมือวิกฤตการณ์โลกรวน
- 6 เรื่องความเข้าใจผิดที่ผู้รับเหมาอาจบอกเราไม่หมด!
- 5 ข้อดีสร้างบ้านช่วงหน้าหนาว ปลอดภัย หมดห่วงเรื่องฝน
- แจก 9 คู่สีแต่งห้องใหม่ เปลี่ยนสีสันในบ้านต้อนรับ 2024
- รวม 9 ข้อกฏหมายสร้างบ้านพื้นฐานที่ต้องรู้
- พื้นที่ก่อสร้างควรสะอาดและปลอดภัย ทำยังไงได้บ้าง
- เคล็ดไม่ลับช่วยรับมือปัญหาโครงสร้างเสื่อมสภาพ
- รู้จักกับ 10 ‘เมืองอัจฉริยะ’ อันดับโลก
- ปักหมุด 13 โรงแรมดีไซน์ดีอันดับต้นของโลก
- 10 หัวข้อฝึกอบรมที่ช่างคุณภาพห้ามพลาด
- ผลประโยชน์ของการวางผังเมือง
- อนุรักษ์อาคารทางประวัติศาสตร์เริ่มยังไง?
- วิธีป้องกันอันตรายจากวัตถุเป็นพิษในไซต์งานก่อสร้าง
- 10 อันดับวัสดุกันไฟชั้นดี
- เคล็ดลับเด็ดเตรียมรับมือกับสภาพอากาศร้อนและชื้น
- อนาคตของตึกระฟ้ากับความยั่งยืน
- มารู้จักกับวัสดุกันน้ำหลากชนิด และ วิธีปกป้องบ้านจากปัญหาน้ำรั่วซึม
- ร่างสัญญาจ้างก่อสร้างง่ายกว่าที่คิด!
- เคล็ดลับควบคุมคุณภาพงานที่พี่ช่างควรรู้
- ก่อสร้าง กับ ปรับปรุง อะไรคือความแตกต่าง ?
- มาสร้างบ้านสวยปลอดภัยไปกับ KNAUF
- นึกสร้างบ้านยั่งยืนมีตัวเลือกเพียบ!
- สร้างบ้านหลังแรกด้วยเคล็ดลับจากมือโปร
- KNAUF GYPSUM เปลี่ยนอาคารสู่มาตรฐานระดับโลก
- MIX&MATCH GYPSUM FOR TYPE OFFICE ROOM
- แผ่นยิปซัมกันร้อน ตราคนอฟ (KNAUF HEATSHIELD) ตัวช่วยบ้านเย็นสบาย
- ดูแลพื้นที่ที่มีความชื้นสูง ด้วยผลิตภัณฑ์ยิปซัม KNAUF MOISTSHIELD
- แผ่นยิปซัมทนแรงกระแทก ตราคนอฟ KNAUF DENSESHIELD
- แผ่นยิปซัมทนไฟ ตราคนอฟ (KNAUF FIRESHIELD) เมื่ออัคคีภัยเป็นเรื่องใกล้ตัว
- แผ่นยิปซัมทนรา คนอฟ โมลด์ชิลด์ (KNAUF MOLDSHIELD)ปกป้องคุณจากเชื้อรา
- แผ่นยิปซัมคนอฟ MOISTSHIELD M ทางเลือกพิเศษสำหรับพื้นที่ความชื้นสูง
- KNAUF SAFEBOARD ยิปซัมเพื่อการป้องกันรังสีเอ็กซเรย์
- KNAUF CLEANEO ยิปซัมลดเสียงสะท้อนพร้อมการฟอกอากาศภายในตัว
- KNAUF SOUNDSHIELD ยิปซัมบอร์ดดูดซับเสียงสำหรับคนรักความสงบ
- เสริมเกราะความปลอดภัย ด้วยแผ่นยิปซัมทนไฟนานถึง 2 ชั่วโมง