Green building 7 อาคารสีเขียวไอคอนนิกทั่วมุมโลก ให้ชีวิตดีขึ้นและรักษ์โลกมากขึ้น

Green building 7  อาคารสีเขียวไอคอนนิกทั่วมุมโลก ให้ชีวิตดีขึ้นและรักษ์โลกมากขึ้น

Green building 7 อาคารสีเขียวไอคอนนิกทั่วมุมโลก ให้ชีวิตดีขึ้นและรักษ์โลกมากขึ้น

หลายๆ งานออกแบบอาคารในปัจจุบันไม่ได้เน้นหนักไปที่ความสวยงามเป็นอย่างเดียว แต่ยังมีการคำนึงถึงแง่อื่นๆ เช่น การเพิ่มพื้นที่สีเขียวในอาคารและพื้นที่โดยรอบ การลดการเกิดคาร์บอนฟุตปริ้นท์ตั้งแต่การออกแบบ ก่อสร้าง ไปจนถึงการดูแลรักษาอาคารในอนาคต รวมไปถึงการวางฟังก์ชั่นการใช้งานอาคารที่จะเกิดขึ้นต่อไปในระยะเวลาข้างหน้าด้วย จึงนำมาสู่กระแสงานออกแบบอาคารอย่าง Green Building ขึ้นมา

'green building' หรืออาคารสีเขียว หมายถึงอาคารที่ถูกออกแบบและสร้างมาเพื่อความยั่งยืน ทั้งวิถีชีวิตของเราในอนาคต ไปจนถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับโลกหลังจากนี้ ผ่านการคำนึงในทุกๆ ช่วงวัยของอาคาร คือตั้งแต่งานออกแบบ ก่อสร้าง ใช้งาน ไปจนถึงในวันที่ต้องทำลายอาคารนี้ลง อาคารเหล่านี้มักตั้งเป้าถึงการช่วยลดวิกฤตการณ์ที่โลกกำลังเชิญ เช่น ปัญหาโลกร้อน อุณหภูมิที่เปลี่ยนฉับพลัน ทรัพยากรและพลังงานฟอซซิลที่เหลือน้อยลงไป จนถึงการเพิ่มพลังงานสะอาดให้กับเมือง หรือลดการเกิดคาร์บอนฟุตปริ้นท์มากขึ้นซึ่งอาจเกิดขึ้นโดยใช้เทคโนโลยี วัสดุคุณภาพเข้ามาช่วยให้อาคารเหล่านี้ไปสู่เป้าหมายได้มากขึ้น

สำหรับในงานออกแบบอาคารสีเขียว knauf ยกตัวอย่าง 7 อาคารน่าสนใจ ทั้งในแง่การออกแบบ และการก่อสร้าง ไปจนถึงอาคารที่หยิบยกเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้งาน เพื่อช่วยเซฟเราและเซฟโลกในอนาคตมากขึ้น

CopenHill

อาคารขนาดใหญ่พร้อมรูปทรงประหลาด ปรับเปลี่ยนพื้นที่หลังคาให้กลายเป็นสวนสีเขียวยักษ์ พร้อมออกแบบทางลาดที่สามารถเดินขึ้นจากระดับพื้นถนนไปจนถึงด้านบนสุดได้ พิเศษกว่านั้นคือเมื่อถึงช่วงฤดูหนาว พื้นที่ลาดนี้ได้ทำหน้าที่เป็นลานสกีขนาดใหญ่ได้ด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าพื้นที่จะมีทั้งสวน ทั้งลานกีฬา แต่ฟังก์ชั่นหลักของอาคารยักษ์นี้จริงๆ คือโรงงานกำจัดขยะขนาดใหญ่ของเมือง ที่เปลี่ยนเอาขยะที่ดูเหมือนจะหมดประโยชน์แล้ว ให้กลับมาเป็นพลังงานไฟฟ้าให้กับเมือง โดยในระดับปีอาคารหลังนี้สามารถเปลี่ยนขยะกว่า 400,000 ตันให้กลายเป็นพลังงานสะอาด พร้อมส่งต่อไปใช้งานได้ถึง 100,000 ครัวเรือนของเมือง

Green building 7  อาคารสีเขียวไอคอนนิกทั่วมุมโลก ให้ชีวิตดีขึ้นและรักษ์โลกมากขึ้น

Apple Park

แบรนด์ดังระดับโลกที่ทุกคนต้องรู้จักอย่าง Apple เองก็เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มองเห็นถึงความยั่งยืนในอนาคตเช่นกัน ผ่านงานออกแบบอาคาร Headquarter ภายใต้ชื่อ Apple park ด้วยรูปทรงวงแหวนขนาดใหญ่ล้อมรอบพื้นที่สีเขียว ต้นไม้นานาพันธุ์ไปจนถึงแอ่งน้ำกว้างที่เพิ่มความชุ่มฉ่ำให้พื้นที่มากขึ้น แน่นอนว่าความมหัศจรรย์ภายในพื้นที่ขนาด 708,200 ตารางเมตรนี้ คือการผลิตพลังงานสะอาดและยั่งยืนออกมาใช้เองตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการ โดยหลักๆ คือหยิบยืมพลังงานจากแสงอาทิตย์มาเพื่อใช้ในอาคารทั้งหมด ตลอดจนถึงการออกแบบช่องทางเดินลมภายในอาคารที่เข้า-ออกได้อย่างสะดวกและเหมาะสมต่อการใช้งาน ก็เรียกได้ว่าวงแหวนขนาดใหญ่นี้ทำหน้าที่เป็นอาคารที่สามารถหายใจได้จริงๆ

Green building 7  อาคารสีเขียวไอคอนนิกทั่วมุมโลก ให้ชีวิตดีขึ้นและรักษ์โลกมากขึ้น

Shanghai Tower

มองกลับมาใกล้บ้านเรา พี่ยักษ์ใหญ่อย่างจีนเองก็ไม่น้อยหน้าด้วยการส่งอาคารระฟ้ากับความสูง 632 เมตรของ Shanghai Tower เข้าร่วมทีมอาคารสีเขียวด้วยเช่น อาคารสูงนี้ตั้งอยู่ใจกลางโซน CBD หรือโซนธุรกิจของเมือง หนึ่งในความพิเศษของตึกสูงหลังนี้คือการหยิบยืมเอาพลังงานจากสายลมมาใช้เป็นพลังงานสะอาด เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายของอาคาร ผ่านการห่อหุ้มอาคารชั้นนอกไว้อีกทีด้วยระบบ natural ventilation หรือระบบระบายอากาศธรรมชาติ เพื่อเปิดโอกาสให้สายลมได้พัดพาเข้ามาอย่างเต็มที่บนความสูงเสียดฟ้า โดยเจ้าพลังงานสะอาดที่เกิดขึ้นนี้ก็ถูกส่งต่อไปใช้เป็นพลังงานไฟฟ้าให้กับตัวอาคารนั่นเอง

Green building 7  อาคารสีเขียวไอคอนนิกทั่วมุมโลก ให้ชีวิตดีขึ้นและรักษ์โลกมากขึ้น

Eden Project Cornwell

โปรเจ็กต์ระดับเมกาโปรเจ็กต์จากสหราชอาณาจักร กำลังสื่อสารกับเราถึงความเป็นไปได้ใหม่ของอาคารยั่งยืนในอนาคต และคุณภาพชีวิตของเรา ผ่าน 2 อาคารทรงครึ่งวงกลมสีขาวขนาดใหญ่รายล้อมด้วยพืชพรรณนานาชนิด โดยภายในของโดมทั้ง 2 หลังนั้นถูกออกแบบเลียนแบบลักษณะของป่าฝนและป่าแถบเมดิเตอร์เรเนียน แน่นอนว่าเมื่อมีการปลูกต้นไม้จำนวนมาก ระบบการจัดการน้ำจึงเป็นเรื่องสำคัญ Eden Project ได้เพิ่มระบบโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมเพื่อดึงประโยชน์จากน้ำมาใช้มากที่สุด ทั้งในแง่ของการดูแลพื้นที่สีเขียวไปจนถึงการใช้ชีวิต นอกจากนี้โปรเจ็กต์นี้ยังได้การใช้พลังงานสะอาดจากลมและกังหันลมด้วยเช่นกัน พร้อมกับการสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าภายในตัวจากพลังงานสะอาดในรูปแบบต่างๆ โดยเป้าหมายหนึ่งของอาคารหลังนี้คือการผลิตพลังงานสะอาดออกมาใช้ด้วยตัวเอง และสู่บ้านเรือนจำนวนกว่า 5,000 หลังคาเรือน

Green building 7  อาคารสีเขียวไอคอนนิกทั่วมุมโลก ให้ชีวิตดีขึ้นและรักษ์โลกมากขึ้น

The Cube

อาคารทรงลูกบาศก์สุดแปลกตา มาพร้อมกระจกใสทุกด้านจากเมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน มาพร้อมกับตำแหน่งอาคารที่ยั่งยืนที่สุดในโลกอันดับ 8 โดยตัวอาคารนี้ออกแบบมาเพื่อใช้งานพลังงานสะอาดตั้งแต่เริ่มจนจบ แถมไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอกไดออกไซด์ออกไปสู่อากาศเพิ่มขึ้นอีกด้วย ตัวอาคารนี้ยังมีระบบ heating (ความร้อน) และ cooling (ความเย็น) ให้ระดับที่เหมาะสม พร้อมกันนั้นยังมีระบบการกักเก็บน้ำฝนเพื่อนำมาใช้งานต่อด้วยเช่นกัน ทำให้อาคารหลังนี้สามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไปได้เยอะมากจากการใช้ทั้ง ลม แดด และน้ำเข้ามาเป็นพลังงานหลักของตัวอาคาร

Green building 7  อาคารสีเขียวไอคอนนิกทั่วมุมโลก ให้ชีวิตดีขึ้นและรักษ์โลกมากขึ้น

CapitalSpring

อาคารใหม่สุดโดดเด่นจากประเทศสิงคโปร์ ด้วยงานดีไซน์ที่เหมือนเหล่าพรรณไม้กำลังแหวกออกมาจากอาคารสูงตั้งตระหง่านเห็นแต่ไกล จากจำนวนต้นไม้กว่า 8 หมื่นต้น หรือมากขึ้นกว่า 140% จากพื้นที่ของอาคาร ทำให้ความโดดเด่นของอาคารนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการเพิ่มจำนวนพื้นที่สีเขียวให้กับเมืองแล้ว ยังตอบสนองต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของคนเมืองด้วยเช่นกัน ทั้งการรองรับการใช้งานด้านจักรยาน เพิ่มเลนปั่นจักรยานขนาด 600 เมตร เชื่อมต่อเข้ากับพื้นที่อื่นๆ ของเมือง พื้นที่ co-working ตลอดจนร้านค้าและร้านอาหารชั้นดาดฟ้า อาคารสีเขียวหลังนี้ได้รับตรา Green Mark Platinum ยืนยันถึงระดับความยั่งยืนที่จะเข้ามาช่วยทำให้วิถีชีวิตรูปแบบใหม่ๆ ที่เกิดประโยชน์ทั้งกับเราและเมืองมากขึ้น

Green building 7  อาคารสีเขียวไอคอนนิกทั่วมุมโลก ให้ชีวิตดีขึ้นและรักษ์โลกมากขึ้น

Tokyo Toranomon Global Square

อีกหนึ่งอาคารสีเขียวและยั่งยืนจากประเทศเกาะเพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่น Tokyo Toranomon Global Square อาคารสูงขนาดใหญ่ที่มาพร้อมระบบพลังงานสะอาด ตัวอาคารใช้ระบบพลังงานลมธรรมชาติมากถึง 30 % รวมถึงระบบทำความร้อนและเย็นที่ใช้ประโยชน์จากการพัดผ่านของลมธรรมชาติ กักเก็บน้ำฝน และนำกลับมาใช้ใหม่ หลายๆ ระบบของอาคารนี้ช่วยทั้งในการประหยัดค่าใช้จ่ายและรักษ์โลกในเวลาเดียวกัน พร้อมกันนั้นยังมีการควบคุมการปล่อยมลพิษทางอากาศอย่างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาอีกด้วย ทำให้อาคารหลังนี้ได้รับการประเมินว่าเป็นอาคารที่ยั่งยืนและใช้พลังงานสะอาดมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น

ไม่ว่าตัวอาคารสีเขียวเหล่านี้จะถูกออกแบบด้วยเทคโนโลยี ระบบ หรือด้วยวิธีไหนก็ตาม แต่หนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการเลือกใช้วัสดุที่ดีต่อธรรมชาติด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกันกับแผ่นยิปซัมของคนอฟ วัสดุที่ดีต่อธรรมชาติ เพื่อให้งานออกแบบและใช้งานอาคารยั่งยืนมากขึ้น

คุณยังสามารถช่วยเป็นส่วนหนึ่งของอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ด้วยการเลือกใช้วัสดุอย่างชาญฉลาด Knauf นำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่สร้างขึ้นโดยคำนึงถึงคุณสมบัติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

Green building 7  อาคารสีเขียวไอคอนนิกทั่วมุมโลก ให้ชีวิตดีขึ้นและรักษ์โลกมากขึ้น Green building 7  อาคารสีเขียวไอคอนนิกทั่วมุมโลก ให้ชีวิตดีขึ้นและรักษ์โลกมากขึ้น

นอกจากการออกแบบอาคารที่ยั่งยืน และรักษ์โลกแล้ว การเลือกใช้วัสดุก็ส่งผลเป็นอย่างมาก เราแนะนำให้เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สามารถจัดเก็บง่ายเช่นแผ่นยิปซัมตราคนอฟ

  • เรียบ เนียน และสวยงามเหมาะสำหรับการออกแบบในหลากหลายพื้นที่
  • สามารถออกแบบเพื่อให้สามารถป้องกันเสียงได้ถึง 45 เดซิเบลเมื่อติดตั้งควบคู่กับวัสดุที่เป็นฉนวนและโครงคร่าวคนอฟ
  • ไม่ดูดซับความร้อน ไม่ลามไฟ
  • สามารถติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว
  • ไม่มีสารประกอบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

คุณสมบัติที่แตกต่างกันมากถึง 5 ชนิด

  • ยิปซัมบอร์ดกันชื้น
  • ยิปซัมบอร์ดกันรังสี
  • ยิปซัมบอร์ดกันไฟ
  • ยิปซัมบอร์ดกันร้อน
  • ยิปซัมยอร์ดกันกระแทก

เราหวังว่าข้อมูลในบทความนี้จะช่วยให้คุณมีความเข้าใจเกี่ยวกับอาคารชนิดต่างๆ โดยชัดเจนมากขึ้นเพื่อข้อมูลสร้างสรรค์และงานอื่นๆ เกี่ยวกับการแต่งบ้าน กระบวนการก่อสร้าง และสถาปัตยกรรมเราแนะนำให้คุณลองอ่านเว็บไซต์ของเราซึ่งจะมีการโพสต์บทความสองชิ้น งานต่อเดือนที่พร้อมนำเสนอและเต็มไปด้วยไอเดียดีๆ ให้ทุกคนได้ปรับปรุงบ้านและการก่อสร้างกัน bit.ly/42TDE73

ฝากติดตามเราได้หลากหลายช่องทาง ทั้ง

Green building 7  อาคารสีเขียวไอคอนนิกทั่วมุมโลก ให้ชีวิตดีขึ้นและรักษ์โลกมากขึ้น

Green building 7  อาคารสีเขียวไอคอนนิกทั่วมุมโลก ให้ชีวิตดีขึ้นและรักษ์โลกมากขึ้น

Article