101 วิธีสร้างห้องครัวในฝัน

การทำอาหารเป็นกิจวัตรประจำวันของใครหลาย ๆ คน นอกจากจะสำคัญต่อการดำรงชีวิตแล้ว ยังเป็นกิจกรรมยามว่างที่มีสีสันอีกด้วย แต่ศิลปะของการทำอาหารเป็นมากกว่าการประกอบอาหารอย่างเดียว เพราะดีไซน์ของเครื่องครัวที่ดีก็มีผลต่อประสบการณ์ในครัวของคุณเช่นกัน อีกทั้งความสะดวกสบายที่แอบแฝงอยู่ในลูกเล่นต่าง ๆ จะทำให้ทุกอย่างราบรื่นขึ้น การสร้างห้องครัวในฝันจึงไม่ใช่เรื่องง่าย บทความนี้เราจะพาคุณไปเนรมิตห้องครัวในฝันกัน

ก่อนที่จะเริ่มสร้างห้องครัวในฝัน เราต้องประเมินพื้นที่กันก่อน เพื่อให้ห้องครัวของเรามีดีไซน์ที่ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด

1. เริ่มประเมิน: เริ่มเขียนรายการส่วนประกอบต่าง ๆ ที่คุณอยากให้มีในห้องครัวของคุณ เช่น เคาน์เตอร์กลางครัว สกายไลท์ ตู้เก็บของต่าง ๆ ฯลฯ
2. เริ่มเขียนเค้าร่าง: ถ้าคุณมีประสบการณ์ด้านการดีไซน์และการวางแผนโครงสร้าง คุณสามารถออกแบบห้องครัวในฝันได้ด้วยตนเอง แต่หากคุณไม่มีฝีมือด้านนี้เป็นพิเศษ สามารถจ้างผู้เชี่ยวชาญมาร่วมร่างห้องครัวของคุณได้เช่นกัน
   การสร้างห้องครัว ควรคำนึงถึงปัจจัยหลัก ๆ เช่น:

   • การจัดเก็บ: การจัดเก็บของในห้องครัวสำคัญมาก เพื่อให้ห้องครัวของคุณไม่รก ตู้เก็บของสามารถช่วยให้การจัดเก็บเป็นเรื่องง่ายดายมากขึ้น แต่หากเพิ่มตู้เข้ามาก็อาจจะกินพื้นที่ได้ คุณจึงควรวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อให้ห้องครัวยังคงเหลือพื้นที่ระหว่างตู้เก็บของต่าง ๆ และเคานเตอร์กลางครัวไว้ คุณจะได่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างไม่ติดขัด

     *โดยมาตรฐานแล้วควรมีพื้นที่ใช้สอยอย่างน้อย 36 - 42 ตารางเมตร

     เริ่มวางแผนพื้นที่จัดเก็บของในห้องครัว โดยดีไซน์ให้ของต่าง ๆ สามารถหยิบจับได้ง่ายที่สุด รวมไปถึงเลือกตู้ที่สามารรถบรรจุของทั้งหมดได้พอดี

     อย่าลืมเผื่อพื้นที่สำหรับทิ้งขยะทั่วไปและขยะรีไซเคิล เพื่อให้การแยกขยะง่ายที่สุด โดยแยกแก้ว พลาสติก และเหล็ก รวมทั้งมีลิ้นชักสำหรับบรรจุกระดาษหนังสือพิมพ์หรือกระดาษรีไซเคิลอื่น ๆ

   • การใช้สอย: พื้นที่ใช้สอยในครัวเป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากมีผู้คนในห้องครัวเยอะในเวลาเดียวกันอาจเกิดอันตรายได้ อีกทั้งหลาย ๆ ท่านชื่นชอบการจัดเลี้ยงในห้องครัว

     ดังนั้นเคานเตอร์กลางห้องครัวเป็นคำตอบที่ดีหากคุณต้องการแยกบริเวณทำอาหารและบริเวณสังสรรค์ออกจากกันโดยไม่จำเป็นต้องแยกห้อง ทุกคนจะสามารถอยู่ร่วมกันในครัวได้โดยไม่เกิดความวุ่นวาย

   • ความปลอดภัย: ควรใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยมาก ๆ โดยเฉพาะบริเวณที่มีเต้ารับไฟฟ้า ควรติดตั้งเต้าไฟฟ้าไว้ในมุมที่คุณต้องการทำกาแฟ เสียบเตาปิ้ง เตาอบ เครื่องปั่นน้ำ และเครื่องใช้อื่น ๆ ที่อยู่ประจำเคาน์เตอร์เป็นส่วนมาก

     ติดตั้งเต้าไฟฟ้าไว้บริเวณผนังกันน้ำมันเพื่อให้คุณเสียบปลั็กได้อย่างสะดวกทุกที่ในห้องครัว หากคุณอยากเพิ่มความสะดวกสบายขึ้นอีกระดับ คุณสามารถเพิ่มช่อง USB เข้าไปในลิ้นชักได้ได้ด้วย

3. แผนการจัดวาง: เมื่อคุณวางเค้าร่างห้องครัวไปบ้างแล้ว คุณจะเริ่มตัดสินใจได้ว่าแบบแปลนแบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ นี่คือตัวอย่างแบบแปลนที่คุณสามารถเลือกได้ตามพื้นที่ที่คุณมี เช่น:
   • รูปแบบตัว U
   • รูปแบบตัว L
   • แบบแกลเลอรี่

   

4. ค้นคว้าข้อมูล: เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องใช้และของติดตั้งในบ้าน คุณสามารถเลือกไซส์ที่เหมาะสม รวมถึงเลือกยี่ห้อและแบรนด์ที่คุณชอบ

   ควรติดตั้งแผ่นยิปซัมทนไฟ Knauf FireShield

   เพราะวัสดุนี้เหมาะสำหรับผนังและฝ้าเพดานภายในที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ในบริเวณที่ต้องการป้องกันความเสียหากจากเพลิงไหม้ เช่น ห้องครัว โครงสร้างของลิฟต์ ทางหนีไฟ เป็นต้น

   • ประกอบด้วยไฟเบอร์กลาสและสารทนไฟผสมอยู่ในเนื้อยิปซัม ประกบด้วยกระดาษความหนาแน่นสูงสีชมพูภายนอก
   • ออกแบบมาให้สามารถกันไฟได้สูงถึง 2 ชั่วโมง เมื่อติดตั้งตามมาตรฐาน คนอฟ
   • เรียบ เนียน และสวยงาม เหมาะสำหรับการออกแบบในหลากหลายพื้นที่
   • ทนความร้อนได้ดี
   • สามารถติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว
   • ไม่มีสารประกอบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
   • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
   • สามารถเพิ่มค่าป้องกันเสียงให้สูงขึ้น เมื่อติดตั้งร่วมกันกับฉนวนกันเสียง

   

   อย่าลืมคำนึงถึงวัสดุเคาน์เตอร์: โดยคำนึงถึงขั้นตอนที่คุณประกอบอาหาร สำหรับเชฟบางท่านอาจต้องการขนาดเคาน์เตอร์ที่กว้างกว่าปกติ

   

5. ติดตั้งตู้เก็บของ: การเก็บของสามารถทำได้หลากหลายดีไซน์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บด้วยลิ้นชักหลังตู้ หรือดัดแปลงการใช้งานในตู้ให้เป็นแบบ ‘lazy susan’ วิธีเหล่านี้จะช่วยให้ห้องครัวของคุณไม่รก

   

   • ตู้ ‘lazy susan’ เป็นเคล็ดลับการเก็บของที่ให้คุณได้ใช้ประโยชน์จากมุมตู้มากที่สุด โดยกลไกหมุนได้จะช่วยให้คุณหาของได้ง่ายโดยไม่ต้องรื้อตู้

     

   • ชั้นวางเครื่องเทศ: เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ในมุมตู้ แนะนำให้คุณเพิ่มชั้นที่สไลด์เข้าออกได้ เพื่อจัดเก็บเครื่องเทศและอาหารกระป๋อง

     

6. เริ่มคิดคำนวน: โดยคำนึงถึงดีไซน์ภายใน สไตล์ที่ชอบ ไปจนถึงโทนสีของทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแบบคลาสสิก แบบโมเดิร์น แบบเน้นแสงธรรมชาติ แบบ Electric แบบวินเทจ หรือแบบแกลม ฯลฯ

   

7. เพิ่มความกลมกลืน: เลือกโทนสีที่เข้ากับดีไซน์ที่สุด ใช้โทนสีอ่อนหากห้องครัวของคุณมีขนาดเล็ก สีโทนมืดจะทำให้พื้นที่ดูแคบและอึดอัด การใช้สีอ่อนจะช่วยขยายพื้นที่ และยิ่งมีแสงธรรมชาติด้วยจะทำให้พื้นที่ดูสบาย เช่น
   • สีเขียวมะกอก + สีไม้โทนอุ่น
   • สีฟ้าอ่อน + อิฐสีขาว
   • สีครีมหม่น + สีมิ้นหม่น

   

8. เลือกวัสดุ: เมื่อคุณเลือกสไตล์สำหรับห้องครัวได้แล้ว เราจะมาเริ่มเลือกวัสดุตกแต่งกัน
9. เริ่มเลือกวัสดุเคาน์เตอร์ในครัว
   • วัสดุหินธรรมชาติ: ได้สไตล์ที่ดูธรรมชาติ หินเหล่านี้มีสีสันให้เลือกมากมายและมีลวดลายเฉพาะตัวที่สวยงาม ที่สำคัญคือดูแลง่ายมาก
   • วัสดุคอนกรีต: ลักษณะคล้ายวัสดุหินธรรมชาติ เหมาะกับท่านที่ออกแบบเคาน์เตอร์เองโดยเฉพาะ
   • หินสังเคราะห์: ความแตกต่างหลัก ๆ ระหว่างหินสังเคราะห์และวัสดุสังเคราะห์ปกติคือความแข็งแรงและ ความสวยงามในเนื้อวัสดุที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
   • ฟิล์มลามิเนตหรือพลาสติกลามิเนต คือการเคลือบฟิล์มพลาสติกเข้ากับวัสดุอื่น ๆ เช่น แผ่นพลาสติก สติกเกอร์ กระดาษกาว บรรจุภัณฑ์อาหาร หรือฟอยล์โลหะ ฟอร์มิก้าเป็นวัสดุที่ค่อนข้างแข็งแรง ทนต่อการใช้งานมาก ๆ เหมาะสำหรับท่านที่ทำอาหารบ่อย และเน้นการใช้งาน
   • กระเบื้องเซรามิค: กระเบื้องเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผนังกันน้ำมัน หรือบริเวณใช้สอยเพิ่มเติม เช่น เคาน์เตอร์กลางห้องครัว

   

10. เลือกไฟตกแต่ง: เพิ่มแสงสว่างให้ห้องครัวของคุณโดยการติดตั้งไฟตกแต่ง

    

11. เพิ่มผ้าม่าน: ผ้าม่านเป็นอีกหนึ่งลูกเล่นที่นิยม การมีผ้าม่านจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมปริมาณแสงธรรมชาติในห้องครัว รวมไปถึงความเป็นส่วนตัวอีกด้วย ผ้าม่านมาในรูปแบบมากมายทั้งไซส์ สี วัสดุ ลวดลาย และความทึบ นั่นแปลว่าคุณสามารถดัดแปลงบรรยากาศในห้องได้อย่างง่ายดาย

    สไตล์ผ้าม่านมีหลายรูปแบบ เช่น

    • ม่านปรับแสงแบบแนวตั้ง
    • ม่านปรับแสงแบบแนวนอนขนาดเล็ก
    • มู่ลี่ไม้

    

    สไตล์ที่เหมาะสมกับการปรับใช้ในห้องครัว
    • ระบบหน้าต่างบานเลื่อน
    • หน้าต่างแบบแขวนคู่
    • หน้าต่างบานเปิด

    

สรุปแล้วนี่คือวิธีสร้างห้องครัวตั้งแต่ต้นจนจบ โดยคำนึงถึงความสำคัญในทุกส่วนของห้องครัว คนอฟภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของไอเดียในการสร้างโปรเจกต์ในฝันของคุณ หากคุณสนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแต่งบ้าน หรือปรับปรุงโครงสร้างบ้าน เราแนะนำให้คุณเข้าไปอ่านเว็บไซต์ยิปซัมน่ารู้ที่เราได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ มากมายที่อาจเป็นประโยชน์ต่อคุณ

https://knauf.co.th/article.php?lang=th